เมนู

เทพบุตรโอวาทพราหมณ์แล้วก็หายตัวไป


ลำดับนั้น มาณพได้กล่าวตอบว่า
"ท่านจงเป็นผู้มีจิตเลื่อมใสแล้ว ถึงพระ-
พุทธเจ้า ทั้งพระธรรม ทั้งพระสงฆ์ ว่าเป็น
สรณะในวันนี้แล ท่านจงเป็นผู้มีจิตเลื่อมใส
อย่างนั้นนั่นแล สมาทานสิกขาบท 5 อย่า
ให้ขาดทำลาย, จงรีบเว้นจากปาณาติบาต (การ
ฆ่าสัตว์) จงเว้นของที่เจ้าของยังไม่ให้ในโลก,
จงอย่าดื่มน้ำเมา, จงอย่าพูดปด, และจงเป็น
ผู้เต็มใจด้วยภรรยาของตน."

เขารับว่า "ดีแล้ว" ได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ว่า
"ดูก่อนยักษ์1 ท่านเป็นผู้ใคร่ประโยชน์
แก่ข้าพเจ้า, ดูก่อนเทพดา ท่านเป็นผู้ใคร่สิ่งที่
เกื้อกูลแก่ข้าพเจ้า, ข้าพเจ้าจะทำ (ตาม)
ถ้อยคำของท่าน, ท่านเป็นอาจารย์ของข้าพเจ้า,
ข้าพเจ้าเข้าถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นสรณะด้วย,
ข้าพเจ้าเข้าถึงแม้พระธรรม ซึ่งไม่มีสิ่งอื่นยิ่งกว่า
ว่าเป็นสรณะด้วย, ข้าพเจ้าเข้าถึงพระสงฆ์ของ
พระพุทธเจ้าผู้เป็นมนุษย์ (พิเศษ) ดุจเทพดา
ว่าเป็นสรณะด้วย, ข้าพเจ้าจะรีบเว้นจาก


1. คำนี้ในที่อื่นหมายถึงผู้ดุร้าย แต่ในที่นี้หมายถึงผู้อันบุคคลควรบูชา.

ปาณาติบาต, เว้นของที่เจ้าของยังไม่ให้ในโลก,
ไม่ดื่มน้ำเมา, ไม่พูดปด, และเป็นผู้เต็มใจ
ด้วยภรรยาของตน."

ลำดับนั้น เทพบุตรกล่าวกะเขาว่า "พราหมณ์ ทรัพย์ในเรือน
ของท่านมีมาก, ท่านจงเข้าไปเฝ้าพระศาสดาแล้วถวายทาน, จงฟังธรรม,
จงถามปัญหา " ดังนี้แล้ว ก็อันตรธานไป ณ ที่นั้นนั่นแล.

พราหมณ์ถวายทานแด่พระพุทธเจ้า


ฝ่ายพราหมณ์ ไปเรือนแล้วเรียกนางพราหมณีมา พูดว่า "นาง
ผู้เจริญ ฉันจักนิมนต์พระสมณโคดมแล้วทูลถามปัญหา, หล่อนจงทำ
สักการะ" ดังนี้แล้ว ไปสู่วิหาร ไม่ถวายบังคมพระศาสดาเลย ไม่ทำ
ปฏิสันถาร ยืน ณ ที่ควรข้างหนึ่งแล้ว กราบทูลว่า " พระโคดมผู้เจริญ
ของพระองค์กับทั้งพระภิกษุสงฆ์ จงทรงรับภัตตาหารแห่งข้าพระองค์
เพื่อเสวยในวันนี้ ."
พระศาสดาทรงรับแล้ว. เขาได้ทราบว่า พระศาสดาทรงรับแล้ว
จึงมาโดยเร็ว ใช้คนให้ตกแต่งขาทนียโภชนียาหารไว้ในเรือนของตน.
พระศาสดาอันหมู่ภิกษุสงฆ์แวดล้อมแล้ว เสด็จไปสู่เรือนแห่งพราหมณ์นั้น
ประทับนั่งบนอาสนะที่เขาแต่งไว้. พราหมณ์อังคาสแล้ว (เลี้ยงแล้ว)
โดยเคารพ.
มหาชนประชุมกัน. ได้ยินว่า เมื่อพระตถาคตอันพราหมณ์ผู้
มิจฉาทิฏฐินิมนต์แล้ว, หมู่ชน 2 พวกมาประชุมกัน คือพวกชนผู้เป็น