เมนู

เขากลับเพศเป็นชายแล้วบวชได้บรรลุอรหัตผล


พอพระเถระ เอ่ยปากว่า "ฉันอดโทษให้" เท่านั้น เพศหญิง
ได้หายไป, เพศชายได้ปรากฏแล้ว.
เมื่อเพศชาย พอกลับปรากฏขึ้นเท่านั้น. เศรษฐีบุตรในกรุงตักกสิลา
ได้กล่าวกะเธอว่า " สหายผู้ร่วมทุกข์ เด็กชาย 2 คนนี้เป็นลูกของเรา
แม้ทั้งสองแท้ เพราะเป็นผู้อยู่ในท้องของเธอ (และ) เพราะเป็นผู้อาศัย
ฉันเกิด, เราทั้งสองจักอยู่ในนครนี้แหละ, เธออย่าวุ่นวายไปเลย."
โสไรยเศรษฐีบุตร พูดว่า " ผู้ร่วมทุกข์ ฉันถึงอาการอันแปลก
คือ เดิมเป็นผู้ชาย แล้วถึงความเป็นผู้หญิงอีก แล้วยังกลับเป็นผู้ชาย
ได้อีก โดยอัตภาพเดียว (เท่านั้น); ครั้งก่อน บุตร 2 คนอาศัยฉัน
เกิดขึ้น, เดี๋ยวนี้ บุตร 2 คนคลอดจากท้องฉัน; เธออย่าทำความสำคัญว่า
' ฉันนั้นถึงอาการอันแปลก โดยอัตภาพเดียว จักอยู่ในเรือนต่อไปอีก,
ฉันจักบวชในสำนักแห่งพระผู้เป็นเจ้าของเรา เด็ก 2 คนนี้ จงเป็นภาระ
ของเธอ, เธออย่าเลินเล่อในเด็ก 2 คนนี้" ดังนี้แล้ว จูบบุตรทั้ง 2 ลูบ
(หลัง) แล้ว มอบให้แก่บิดา ออกไปบวชในสำนักพระเถระ, ฝ่าย
พระเถระ ให้เธอบรรพชาอุปสมบทเสร็จแล้ว พาเที่ยวจาริกไป ได้ไปถึง
เมืองสาวัตถีโดยลำดับ. นามของท่านได้มีว่า " โสไรยเถระ."
ชาวชนบท รู้เรื่องนั้นแล้ว พากันแตกตื่นอลหม่านเข้าไปถามว่า
"ได้ยินว่า เรื่องเป็นจริงอย่างนั้นหรือ ? พระผู้เป็นเจ้า."
พระโสไรยะ. เป็นจริง ผู้มีอายุ.
ชาวชนบท. ท่านผู้เจริญ ชื่อว่าเหตุแม้เช่นนี้มีได้ (เทียวหรือ ?);
เขาลือกันว่า "บุตร 2 คนเกิดในท้องของท่าน, บุตร 2 คน

อาศัยท่านเกิด" บรรดาบุตร 2 จำพวกนั้น ท่านมีความสิเนหามากใน
จำพวกไหน ?
พระโสไรยะ. ในจำพวกบุตรผู้อยู่ในท้อง ผู้มีอายุ.
ชนผู้มาแล้ว ๆ ก็ถามอยู่อย่างนั้นนั่นแหละเสมอไป. พระเถระ
บอกแล้วบอกเล่าว่า " มีความสิเนหาในจำพวกบุตรผู้อยู่ในท้องนั้นแหละ
มาก." เมื่อรำคาญใจจึงนั่งแต่คนเดียว ยืนแต่คนเดียว. ท่านเข้าถึงความ
เป็นคนเดียวอย่างนี้ เริ่มตั้งความสิ้นและความเสื่อมในอัตภาพ บรรลุ
พระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลายแล้ว.
ต่อมา พวกชนผู้มาแล้ว ๆ ถามท่านว่า " ท่านผู้เจริญ ได้ยินว่า
เหตุชื่ออย่างนี้ได้มีแล้ว จริงหรือ ?"
พระโสไรยะ. จริง ผู้มีอายุ.
พวกชน. ท่านมีความสิเนหามากในบุตรจำพวกไหน ?
พระโสไรยะ. ขึ้นชื่อว่าความสิเนหาในบุตรคนไหน ๆ ของเรา
ย่อมไม่มี.
ภิกษุทั้งหลาย กราบทูลพระศาสดาว่า " ภิกษุรูปนี้พูดไม่จริง
ในวันก่อน ๆ พูดว่า ' มีความสิเนหาในบุตรผู้อยู่ในท้องมาก ' เดี๋ยวนี้
พูดว่า ' ความสิเนหาในบุตรคนไหน ๆ ของเราไม่มี,' ย่อมพยากรณ์
พระอรหัตผล พระเจ้าข้า."

จิตที่ตั้งไว้ชอบดียิ่งกว่าเหตุใด ๆ


พระศาสดา ตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย บุตรของเราพยากรณ์
อรหัตผลหามิได้, (เพราะว่า) ตั้งแต่เวลาที่บุตรของเรา เห็นมรรค-