เมนู

ของนางจึงมี 4 คน, คือบุตรผู้อยู่ในท้อง 2 คน บุตรผู้เกิดเพราะอาศัยเธอ
(ครั้งเป็นชายอยู่ ) ในโสไรยนคร 2 คน.

นางได้พบกับเพื่อนเก่แล้วเล่าเรื่องให้ฟัง


ในกาลนั้น ลูกชายเศรษฐีผู้เป็นสหายของนาง ( ออก) จาก
โสไรยนครไปสู่กรุงตักกสิลาด้วยเกวียน 500 เล่ม นั่งบนยานน้อยอันมี
ความสุขเข้าไปสู่พระนคร. ขณะนั้น นางเปิดหน้าต่างบนพื้นปราสาท
ชั้นบน ยืนดูระหว่างถนนอยู่ เห็นสหายนั้น จำเขาได้แม่นยำ จึงส่ง
สาวใช้ให้ไปเชิญเขามาแล้ว ให้นั่งบนพื้นมีค่ามาก ได้ทำสักการะและ
สัมมานะอย่างใหญ่โต. ขณะนั้น สหายนั้นกล่าวกะนางว่า " แม่มหา-
จำเริญ ในกาลก่อนแต่นี้ ฉันไม่เคยเห็นนาง, ก็เมื่อเป็นเช่นนี้ ไฉนนาง
จึงทำสักการะแก่ฉันใหญ่โต, นางรู้จักหรือ ?"
นาง. จ้ะ นาย ฉันรู้จัก, ท่านเป็นชาวโสไรยนคร มิใช่หรือ ?
สหาย. ถูกละ แม่มหาจำเริญ.
นางได้ถามถึงความสุขสบายของมารดาบิดา ของภริยา ทั้งของลูก
ชายทั้งสอง สหายนอกนี้ตอบว่า " จ้ะ แม่มหาจำเริญ ชนเหล่านั้น
สบายดี" แล้วถามว่า " แม่มหาจำเริญ นางรู้จักชนเหล่านั้นหรือ ?"
นาง. จ้ะ นาย ฉันรู้จัก, ลูกชายของท่านเหล่านั้นมีคนหนึ่ง,
เขาไปไหนเล่า ?
สหาย. แม่มหาจำเริญ อย่าได้พูดถึงเขาเลย; ฉันกับเขา วันหนึ่ง
ได้นั่งในยานน้อยอันมีความสุขออกไปเพื่ออาบน้ำ ไม่ทราบที่ไปของเขาเลย.

เที่ยวค้นดูข้างโน้นและข้างนี้ (ก็) ไม่พบเขา จึงได้บอกแต่มารดาและ
บิดา (ของเขา), แม้มารดาและบิดาทั้งสองนั้น ของเขา ได้ร้องไห้
คร่ำครวญ ทำกิจอันควรทำแก่คนผู้ล่วงลับไปแล้ว.
นาง. ฉัน คือเขานะ นาย.
สหาย. แม่มหาจำเริญ จงหลีกไป. นางพูดอะไร ? สหายของฉัน
ย่อมงามเหมือนลูกเทวดา, (ทั้ง) เขาเป็นผู้ชาย (ด้วย).
นาง. ช่างเถอะ นาย ฉัน คือเขา.
ขณะนั้น สหายจึงถามนางว่า " อันเรื่องนี้เป็นอย่างไร ?"
นาง. วันนั้น เธอเห็นพระมหากัจจายนเถระผู้เป็นเจ้าไหม ?
สหาย. เห็นจ้ะ.
นาง. ฉันเห็นพระมหากัจจายนะผู้เป็นเจ้าแล้ว ได้คิดว่า ' สวย
จริงหนอ พระเถระรูปนี้ควรเป็นภริยาของเรา, หรือว่าสีแห่งสรีระของ
ภริยาของเรา พึงเป็นเหมือนสีแห่งสรีระของพระเถระนั่น,' ในขณะที่
ฉันคิดแล้วนั่นเอง เพศชายได้หายไป, เพศหญิงปรากฏขึ้น เมื่อเป็น
เช่นนี้ ฉันไม่อาจบอกแก่ใครได้ ด้วยความละอาย จึงหนีไปจากที่นั้นมา
ณ ที่นี้ นาย.
สหาย. ตายจริง เธอทำกรรมหนักแล้ว, เหตุไร เธอจึงไม่บอก
แก่ฉันเล่า ? เออ ก็เธอให้พระเถระอดโทษแล้วหรือ ?
นาง. ยังไม่ให้ท่านอดโทษเลย นาย, ก็เธอรู้หรือ ? พระเถระ
อยู่ ณ ที่ไหน ?
สหาย. ท่านอาศัยนครนี้แหละอยู่.
นาง. หากว่า ท่านเที่ยวบิณฑบาต พึงมาในที่นี้ไซร้, ฉันพึง

ถวายภิกษาหารแก่พระผู้เป็นเจ้าของฉัน .
สหาย. ถ้ากระนั้น ขอเธอจงรีบทำสักการะไว้, ฉันจักยังพระ-
ผู้เป็นเจ้าของเราให้อดโทษ.

นางขอขมาพระมหากัจจายนเถระ


เธอไปสู่ที่อยู่ของพระเถระ ไหว้แล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนหนึ่งแล้ว
เรียนว่า " ท่านขอรับ พรุ่งนี้ นิมนต์ท่านรับภิกษาของกระผม."
พระเถระ. เศรษฐีบุตร ท่านเป็นแขกมิใช่หรือ ?
เศรษฐีบุตร. ท่านขอรับ ขอท่านอย่าได้ถามความที่กระผมเป็นแขก
เลย, พรุ่งนี้ ขอนิมนต์ท่านรับภิกษาของกระผมเถิด.
พระเถระ รับนิมนต์แล้ว. สักการะเป็นอันมาก เขาได้ตระเตรียม
ไว้แม้ในเรือนเพื่อพระเถระ. วันรุ่งขึ้น พระเถระได้ไปสู่ประตูเรือน.
ขณะนั้น เศรษฐีบุตรนิมนต์ท่านให้นั่งแล้ว อังคาส (เลี้ยงดู) ด้วยอาหาร
ประณีต พาหญิงนั้นมาแล้ว ให้หมอบลงที่ใกล้เท้าของพระเถระ เรียนว่า
" ท่านขอรับ ขอท่านจงอดโทษแก่หญิงผู้สหายของกระผม (ด้วย)."
พระเถระ. อะไรกันนี่ ?
เศรษฐีบุตร. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ในกาลก่อน คนผู้นี้ได้เป็นสหาย
ที่รักของกระผม พบท่านแล้ว ได้คิดชื่ออย่างนั้น; เมื่อเป็นเช่นนั้น
เพศชายของเขาได้หายไป, เพศหญิงได้ปรากฏแล้ว: ขอท่านจงอดโทษ
เถิด ท่านผู้เจริญ.
พระเถระ. ถ้ากระนั้น เธอจงลุกขึ้น, ฉันอดโทษให้แก่เธอ.