เมนู

พระอุปัชฌาย์กล่าววินัยกถา. ข้าพระองค์นั้นได้ทำความตกลงใจว่า ' ใน
พระพุทธศาสนานี้ สถานเป็นที่เหยียดมือของเราไม่มีเลย, เราเป็นคฤหัสถ์
ก็อาจพ้นจากทุกข์ได้, เราจักเป็นคฤหัสถ์' ดังนี้ พระเจ้าข้า.
พระศาสดา. ภิกษุ ถ้าเธอจักสามารถรักษาได้เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น,
กิจคือการรักษาสิ่งทั้งหลายที่เหลือ ย่อมไม่มี.
ภิกษุ. อะไร ? พระเจ้าข้า.
พระศาสดา. เธอจักอาจรักษาเฉพาะจิตของเธอ ได้ไหม ?
ภิกษุ. อาจรักษาได้ พระเจ้าข้า.
พระศาสดา ประทานพระโอวาทนี้ว่า " ถ้ากระนั้น เธอจงรักษา
เฉพาะจิตของตนไว้, เธออาจพ้นจากทุกข์ได้" ดังนี้แล้ว จึงตรัสพระ
คาถานี้
3. สุทุทฺทสํ สุนิปุณํ ยตฺถ กามนิปาตินํ
จิตฺตํ รกฺเขถ เมธาวี จิตฺตํ คุตฺตํ สุขาวหํ.
"ผู้มีปัญญา พึงรักษาจิต ที่เห็นได้แสนยาก
ละเอียดยิ่งนัก มันตกไปในอารมณ์ตามความใคร่,
(เพราะว่า) จิตที่คุ้มครองไว้ได้ เป็นเหตุนำสุขมา
ให้."


แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สุทุทฺทสํ ได้แก่ ยากที่จะเห็นได้
ด้วยดี. บทว่า สุนิปุณํ ละเอียดที่สุด ได้แก่ ละเอียดอย่างยิ่ง.
บาทพระคาถาว่า ยตฺถ กามนิปาตินํ ความว่า มักไม่พิจารณา

ดูฐานะทั้งหลายมีชาติเป็นต้น ตกไปในอารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง ในฐานะ
ที่พึงได้หรือไม่พึงได้ สมควรหรือไม่สมควร.
บาทพระคาถาว่า จิตฺตํ รกฺเขถ เมธาวี ความว่า คนอันธพาล
มีปัญญาทราม ชื่อว่า สามารถรักษาจิตของตนไว้ได้ ย่อมไม่มี. เขา
เป็นผู้เป็นไปในอำนาจจิต ย่อมถึงความพินาศฉิบหาย: ส่วนผู้มีปัญญา
คือเป็นบัณฑิตเทียว ย่อมอาจรักษาจิตไว้ได้. เพราะเหตุนั้น แม้เธอจง
คุ้มครองจิตไว้ให้ได้; เพราะว่า จิต ที่คุ้มครองไว้ได้ เป็นเหตุนำสุขมาให้
คือย่อมนำมาซึ่งสุขอันเกิดแต่มรรคผลและนิพพาน ดังนี้.
ในกาลจบเทศนา ภิกษุนั้นบรรลุโสดาปัตติผลแล้ว ชนแม้
เหล่าอื่นเป็นอันมาก ได้เป็นอริยบุคคล มีพระโสดาบันเป็นต้น. เทศนา
ได้สำเร็จประโยชน์แก่มหาชน ดังนี้แล.
เรื่องอุกกัณฐิตภิกษุ จบ.

4. เรื่องพระภาคิไนยสังฆรักขิตเถระ [27]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภภิกษุชื่อว่า
สังฆรักขิต ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " ทูรงฺคมํ เอกจรํ " เป็นต้น

พระเถระไม่รับผ้าสาฎกที่พระหลานชายถวาย


ดังได้สดับมา กุลบุตรผู้หนึ่งในกรุงสาวัตถี ฟังพระธรรมเทศนา
ของพระศาสดาแล้วออกบวช ได้อุปสมบทแล้ว มีนามว่าสังฆรักขิตเถระ
โดย 2 - 3 วันเท่านั้น ก็บรรลุพระอรหัตผล. น้องชายของท่าน ได้
บุตรแล้ว ก็ได้ตั้งชื่อของพระเถระ ( แก่บุตรนั้น) . เขามีนามว่า
ภาคิไนยสังฆรักขิต เจริญวัยแล้ว ได้บรรพชาอุปสมบทในสำนักของ
พระเถระ เข้าไปจำพรรษาในวัดใกล้บ้านแห่งใดแห่งหนึ่ง ได้ผ้าวัสสา-
วาสิกสาฎก 2 ผืน คือยาว 7 ศอกผืนหนึ่ง ยาว 8 ศอกผืนหนึ่ง กำหนด
ไว้ว่า " ผ้าผืนยาว 8 ศอกจักเป็นของพระอุปัชฌาย์ของเรา" คิดว่า
" ผ้าผืนยาว 7 ศอกจักเป็นของเรา" ออกพรรษาแล้ว ประสงค์ว่า
" จักเยี่ยมพระอุปัชฌาย์" เดินมาพลางเที่ยวบิณฑบาตในระหว่างทาง
ครั้นมา (ถึง) แล้ว เมื่อพระเถระยังไม่กลับมาสู่วิหารนั่นแล, เข้าไปสู่
วิหารแล้วปัดกวาดที่สำหรับพักกลางวันของพระเถระ จัดตั้งน้ำล้างเท้าไว้
ปูอาสนะแล้วนั่งแลดูหนทางเป็นที่มา (แห่งพระเถระ) อยู่. ครั้นทราบ
ความที่พระเถระมาถึงแล้ว กระทำการต้อนรับ รับบาตรจีวร อาราธนา