เมนู

มีทาสและกรรมกรเป็นต้น แวดล้อมเดินไปสู่วิหารนั้นในเวลาเย็น ไม่เห็น
ภิกษุทั้งหลายในท่ามกลางวิหารแล้ว จึงถามพวกบุรุษว่า " พระผู้เป็นเจ้า
ทั้งหลาย ไปเสีย ณ ที่ไหนหนอแล ?" เมื่อพวกเขาบอกว่า "แม่คุณ
พระผู้เป็นเจ้าทั้งหลายจักเป็นผู้นั่งอยู่ในที่พักกลางคืน และที่พักกลางวัน
ของตน ๆ (เท่านั้น)" จึงกล่าว (ต่อไป) ว่า "ฉันทำอย่างไร
เล่าหนอ จึงจักสามารถพบ (พวกพระผู้เป็นเจ้า) ได้."
ลำดับนั้น มนุษย์ทั้งหลายที่รู้กติกวัตรของภิกษุสงฆ์ จึงบอกกะ
อุบาสิกานั้นว่า "คุณแม่ พระผู้เป็นเจ้าทั้งหลายจักประชุมกัน ในเมื่อ
บุคคลมาตีระฆัง." นางจึงให้ตีระฆัง ภิกษุทั้งหลายได้ยินเสียงระฆังแล้ว
ออกจากที่ของตน ๆ ด้วยสำคัญว่า " ภิกษุบางรูปจักไม่มีความผาสุก,"
จึงประชุมกันในท่ามกลางวิหาร. ภิกษุชื่อว่า เดินมาโดยทางเดียวกันแม้
2 รูป ย่อมไม่มี.

อุบาสิกาเจริญสมณธรรมตามที่ภิกษุบอก


อุบาสิกาเห็นภิกษุรูปหนึ่ง ๆ เท่านั้นเดินมาจากที่แห่งหนึ่ง ๆ จึง
คิดว่า "(ชะรอย) พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นบุตรของเราจักทำความทะเลาะ
วิวาทแก่กันและกัน" ดังนี้แล้ว ไหว้ภิกษุสงฆ์กล่าวว่า "ท่านผู้เจริญ
ท่านทั้งหลายได้ทำความทะเลาะกันหรือ ?"
ภิกษุทั้งหลายกล่าวว่า " พวกฉันหาได้ทำความทะเลาะวิวาทกันไม่
มหาอุบาสิกา."
อุบาสิกา. ท่านผู้เจริญ ถ้าพวกท่านไม่มีความทะเลาะวิวาทกันไซร้,
เมื่อเป็นเช่นนั้น เหตุไรพวกท่านจึงไม่มา เหมือนเมื่อมาสู่เรือนของดิฉัน

มาโดยรวมกันทั้งหมด, (นี่กลับ) มาทีละองค์ ๆ จากที่แห่งหนึ่ง ๆ.
ภิกษุ. มหาอุบาสิกา พวกฉันนั่งทำสมณธรรมในที่แห่งหนึ่ง ๆ.
อุบาสิกา. พ่อคุณทั้งหลาย ชื่อว่าสมณธรรมนั้นคืออะไร ?
ภิกษุ. มหาอุบาสิกา พวกฉันทำการสาธยายอาการ 32 เริ่มตั้ง
ซึ่งความสิ้นและความเสื่อมในอัตภาพอยู่.
อุบาสิกา. ท่านเจ้าขา การทำการสาธยายอาการ1 32 และการเริ่ม
ตั้งความสิ้นความเสื่อมในอัตภาพ ย่อมสมควรแก่พวกท่านเท่านั้น หรือ
ย่อมสมควรแก่พวกดิฉันด้วยเล่า ?
ภิกษุ. มหาอุบาสิกา ธรรมนี้ อันพระผู้มีพระภาคเจ้ามิได้ทรงห้าม
แก่ใคร ๆ.
อุบาสิกา. ถ้าอย่างนั้น ขอพวกท่านจงให้อาการ 32 และขอจง
บอกการเริ่มตั้งซึ่งความสิ้นและความเสื่อมในอัตภาพ แก่ดิฉันบ้าง.
ภิกษุ. มหาอุบาสิกา ถ้าอย่างนั้น ท่านจงเรียนเอา. แล้วให้เรียน
เอาทั้งหมด.

อุบาสิกาบรรลุมรรค 3 ผล 3 ก่อนภิกษุ


จำเดิมแต่นั้น อุบาสิกานั้นก็ได้ทำการสาธยายซึ่งอาการ 32 (และ)
เริ่มตั้งไว้ซึ่งความสิ้นไปและความเสื่อมไปในตน ได้บรรลุมรรค 3 ผล 3
ก่อนกว่าภิกษุเหล่านั้นทีเดียว. ปฏิสัมภิทา 4 และโลกิยอภิญญา ได้มา

1. คือ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ม้าม หัวใจ ตับ พังผืด
ไต ปอด ไส้ใหญ่ ไส้น้อย อาหารใหม่ อาหารเก่า ดี เสลด หนอง เลือด เหงื่อ มันข้น
น้ำตา น้ำมันเหลว น้ำลาย น้ำมูก ไขข้อ มูตร ถ้าเติมมัตถลุงคัง มันสมองเข้าด้วย เป็น 32
ตามคัมภีร์วิสุทธิมรรค.