ในเวลาสิ้นชีวิต ได้เกิดเป็นท้าวสักกเทวราชในภพดาวดึงส์. สหายของ
เขาแม้เหล่านั้น ก็เกิดในที่นั้นเหมือนกัน. ช่างไม้ เกิดเป็นวิศวกรรม
เทพบุตร.

เทวดากับอสูรทำสงครามกัน

ในกาลนั้น พวกอสูรอยู่ในภพดาวดึงส์ อสูรเหล่านั้น คิดว่า
" เทพบุตรใหม่ ๆ เกิดแล้ว" จึงเตรียม (เลี้ยง) น้ำทิพย์. ท้าวสักกะ
ได้ทรงนัดหมายแก่บริษัทของพระองค์ เพื่อประสงค์มิให้ใคร ๆ ดื่ม.
พวกอสูรดื่มน้ำทิพย์เมาทั่วกันแล้ว. ท้าวสักกะทรงดำริว่า " เราจะต้อง
การอะไร ? ด้วยความเป็นราชาอันทั่วไปด้วยเจ้าพวกนี้ " ทรงนัดหมาย
แก่บริษัทของพระองค์แล้ว ให้ช่วยกันจับอสูรเหล่านั้นที่เท้าทั้งสองให้
เหวี่ยงลงไปในมหาสมุทร. อสูรเหล่านั้นมีศีรษะปักดิ่งตกลงไปในสมุทร
แล้ว, ขณะนั้น อสูรวิมานได้เกิดที่พื้นภายใต้แห่งเขาสิเนรุ ด้วยอานุภาพ
แห่งบุญของพวกเขา. ต้นไม้ชื่อจิตตปาลิ ( ไม้แคฝอย) ก็เกิดแล้ว.
แลเมื่อสงครามระหว่างเทวดาและอสูร (ประชิดกัน), ครั้นเมื่อ
พวกอสูรปราชัยแล้ว, ชื่อว่า เทพนครในชั้นดาวดึงส์ประมาณหมื่นโยชน์
เกิดขึ้นแล้ว. และในระหว่างประตูด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกแห่ง
พระนครนั้น มีเนื้อที่ประมาณหมื่นโยชน์, ระหว่างประตูด้านทิศใต้และ
ทิศเหนือ ก็เท่านั้น. อนึ่ง พระนครนั้นประกอบด้วยประตูพันหนึ่ง ประดับ
ด้วยอุทยานและสระโบกขรณี. ปราสาทนามว่า เวชยันต์ สูง 700 โยชน์
แล้วด้วยแก้ว 7 ประการ¹ ประดับด้วยธงทั้งหลาย สูง 300 โยชน์

1. แก้ว 7 ประการ คือ แก้วมณี แก้วไพฑูรย์ แก้วประพาฬ แก้วมุกดา แก้ววิเชียร
แก้วผลึก แก้วหุง.

ผุดขึ้นด้วยผลแห่งศาลาในท่ามกลางพระนครนั้น, ที่คันเป็นทอง ได้มีธง
เป็นแก้วมณี, ที่คันเป็นแก้วมณี ได้มีธงเป็นทอง, ที่คันเป็นแก้วประพาฬ
ได้มีธงเป็นแก้วมุกดา, ที่คันเป็นแก้วมุกดา ได้มีธงเป็นแก้วประพาฬ,
ที่คันเป็นแก้ว 7 ประการ ได้มีธงเป็นแก้ว 7 ประการ. ธงที่ตั้งอยู่
กลาง ได้มีส่วนสูง 300 โยชน์ ปราสาทสูงพันโยชน์ ล้วนแล้วด้วย
แก้ว 7 ประการ เกิดแล้วด้วยผลแห่งศาลา ด้วยประการฉะนี้.
ต้นปาริฉัตตกะ มีปริมณฑล (แผ่ไป) 300 โยชน์โดยรอบ
เกิดขึ้นด้วยผลแห่งการปลูกต้นทองหลาง. บัณฑุกัมพลศิลา มีสีดังดอก¹ชัย-
พฤกษ์สีครั่งและสีบัวโรย² โดยยาว 60 โยชน์ โดยกว้าง 50 โยชน์ หนา
15 โยชน์ ที่กึ่งแห่งพระวรกายยุบลงในเวลาประทับนั่ง ฟูขึ้นเต็มที่อีก
ในเวลาเสด็จลุกขึ้น เกิดขึ้นแล้วที่โคนไม้ปาริฉัตตกะ ด้วยผลแห่งการปู
แผ่นศิลา.

เทพบุตร 33 องค์นั่งบนกระพองช้างเอราวัณ

ส่วนช้างเกิดเป็นเทพบุตรชื่อเอราวัณ. แท้จริง สัตว์ดิรัจฉาน
ทั้งหลาย ย่อมไม่มีในเทวโลก; เพราะฉะนั้น ในเวลาท้าวสักกะเสด็จ
ออกเพื่อประพาสพระอุทยาน เทพบุตรนั้น จึงจำแลงตัวเป็นช้างชื่อ
เอราวัณ สูงประมาณ 150 โยชน์. ช้างเทพบุตรนั้น นิรมิตกระพอง
33 กระพอง เพื่อประโยชน์แก่ชน 3 คน, ในกระพองเหล่านั้น
กระพองหนึ่ง ๆ โดยกลมประมาณ 3 คาวุต โดยยาวประมาณกึ่งโยชน์.

1. ชยสุมนะ ชื่อต้นไม้ดอกแดง เช่นต้นเซ่งและหงอนไก่เป็นต้น. 2. ปาฏลิสีแดงเจือขาว.
แดงอ่อนชมพู เสตรตฺตมิสฺโส ปาฏโล นาม. อภิ. หน้า 167.