เมนู

ของตนแล้วนอนหลับ, ฝ่ายภิกษุนอกนี้ พักผ่อนในมัชฌิมยามแล้ว
กลับลุกขึ้นทำสมณธรรมในปัจฉิมยาม. ท่านไม่ประมาทอย่างนั้น ต่อ
กาลไม่นานนัก ก็บรรลุพระอรหัต พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลาย. ภิกษุ
รูปเกียจคร้านนอกนี้ ให้เวลาล่วงไปด้วยความประมาทอย่างเดียว. ภิกษุ
2 รูปนั้น ออกพรรษาแล้ว ไปสู่สำนักพระศาสดา ถวายบังคมพระศาสดา
แล้ว นั่ง ณ ที่สมควรข้างหนึ่ง.

พระศาสดาตรัสถามภิกษุทั้งสอง


พระศาสดาทรงกระทำปฏิสันถารกับภิกษุ 2 รูปนั้นแล้ว ตรัสถาม
ว่า "ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอไม่ประมาททำสมณธรรมกันแลหรือ ?
กิจแห่งบรรพชิตของพวกเธอถึงที่สุดแล้ว แลหรือ ?" ภิกษุผู้ประมาท
กราบทูลว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ความไม่ประมาทของภิกษุนั่น จักมี
แต่ที่ไหน ? ตั้งแต่เวลาไป เธอนอนหลับให้เวลาล่วงไปแล้ว."
พระศาสดา ตรัสถามว่า "ก็เธอเล่า ? ภิกษุ."
ภิกษุรูปเกียจคร้าน ทูลว่า " ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์
เก็บฟืนมาต่อเวลายังวัน จัดเตาไฟแล้ว นั่งผิงไฟอยู่ตลอดปฐมยามไม่หลับ
นอน ให้เวลาล่วงไปแล้ว."

ผู้ไม่ปัญญาดีย่อมละทิ้งผู้มีปัญญาทราม


ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสกะท่านว่า "เธอประมาทแล้ว ปล่อย
เวลาล่วงไป ( เปล่า) ยังมาพูดว่า ' ตัวไม่ประมาท ' และทำผู้ไม่ประมาท
ให้เป็นผู้ประมาท. เธอเป็นเหมือนม้าตัวทุรพล ขาดเชาว์1แล้วในสำนัก

1. หมายความว่า ฝีเท้า.