เมนู

"ผู้มีปรีชาเห็นประจักษ์ ย่อมตั้งตนได้ด้วย
ทุนทรัพย์แม้น้อย เหมือนคนก่อไฟกองน้อยให้ลุก
เป็นกองใหญ่ได้ฉะนั้น."

แล้วตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย เราเป็นที่พึ่งพำนักของจูฬปันถกนี้เฉพาะ
แต่ในบัดนี้หามิได้. ถึงในกาลก่อน ก็ได้เป็นที่พึ่งพำนักแล้วเหมือนกัน ;
แต่ว่า ในกาลก่อน เราได้ทำจูฬปันถกนี้ให้เป็นเจ้าของโลกิยทรัพย์, บัดนี้
ทำให้เป็นเจ้าของโลกุตรทรัพย์" ดังนี้แล้ว ทรงประชุมชาดกว่า จูฬกัน-
เตวาสิก แม้ในครั้งนั้น ได้เป็นจูฬปันถก (ในบัดนี้ ), ส่วนจูฬกเศรษฐี
ผู้ฉลาดเฉียบแหลม เข้าใจพยากรณ์ นักษัตร ( ในครั้งนั้น ) คือเรา
นั่นเอง."

พวกภิกษุชมพระจูฬปันถก


อีกวันหนึ่ง ภิกษุทั้งหลาย สนทนากันในธรรมสภาว่า "ผู้มีอายุ
พระจูฬปันถก แม้ไม่สามารถจะเรียนคาถา 4 บท โดย 4 เดือนได้
ก็ไม่สละความเพียร ตั้งอยู่ในอรหัตแล้ว, บัดนี้ได้เป็นเจ้าของทรัพย์
คือโลกุตรธรรมแล้ว."

พระศาสดาสอนให้ทำที่พึ่งด้วยธรรม 4 ประการ


พระศาสดาเสด็จมาตรัสถามว่า " ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้พวกเธอ
นั่งประชุมกันด้วยเรื่องอะไรหนอ ?" เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า " ด้วย
เรื่องชื่อนี้ ( พระเจ้าข้า)," จึงตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในศาสนา