เมนู

พระเจ้าแผ่นดินตรวจความเป็นไปของราษฎร


ในกาลนั้น พระเจ้าพาราณสี ทรงพิจารณาว่า "โทษบางประการ
ในเพราะกรรมทั้งหลาย มีกายกรรมเป็นต้นของเรา มีอยู่หรือหนอ ?" ไม่
ทรงเห็นกรรมอะไร ๆ อันไม่เป็นที่พอพระทัยของพระองค์ ก็ทรงดำริว่า
" ธรรมดาโทษของตน หาปรากฏแก่ตนไม่, ย่อมปรากฏแก่คนเหล่าอื่น;
เราจักกำหนด (ความเป็นไป) ของพวกชาวเมือง" ดังนี้แล้ว จึงทรง
ปลอมเพศ เสด็จออกไปในเวลาเย็น ทรงดำริว่า " ธรรมดาการสนทนา
ปราศรัยของพวกมนุษย์ผู้นั่งบริโภคอาหารในเวลาเย็น ย่อมมีประการต่าง ๆ
กัน; ถ้าเราครองราชย์โดยอธรรม, ชนทั้งหลายคงจะพูดกันว่า ' พวกเรา
ถูกพระเจ้าแผ่นดินผู้ไม่ตั้งอยู่โดยธรรม ผู้ชั่วช้า เบียดเบียนด้วยสินไหม1
และพลีเป็นต้น' ถ้าเราครองราชย์โดยธรรม, ชนทั้งหลายก็จักกล่าวคำ
เป็นต้นว่า ' ขอพระเจ้าอยู่หัวของเราทั้งหลาย จงทรงพระชนมายุยืนเถิด '
แล้วก็สรรเสริญคุณของเรา" ดังนี้แล้ว จึงเสด็จเที่ยวไปตามลำดับฝาเรือน
นั้น ๆ.
ในขณะนั้น พวกโจรผู้หากินทางขุดอุโมงค์ กำลังขุดอุโมงค์ใน
ระหว่างเรือน 2 หลัง เพื่อต้องการเข้าเรือนทั้งสอง โดยอุโมงค์เดียวกัน.
พระราชาทอดพระเนตรเห็นพวกมันแล้ว ได้ทรงแอบซุ่มอยู่ในเงาเรือน.
ในเวลาที่พวกมันขุดอุโมงค์เข้าเรือนได้แล้วตรวจดูสิ่งของ มาณพตื่นขึ้น
แล้ว ก็สาธยายมนต์นั้น กล่าวว่า "ฆเฏสิ ฆเฏสิ, กึการณา ฆเฏสิ ?
อหํปิ ตํ ชานามิ ชานามิ."


1. ทณฺฑ แปลว่า อาชญาก็ได้.

โจรเหล่านั้น ได้ฟังคำนั้นแล้ว ก็ตกใจกลัวทิ้งแม้ผ้าที่คนนุ่งเสีย
หนีไปเคยซึ่ง ๆ หน้าทีเดียว ด้วยบอกกันว่า " นัยว่าเจ้าคนนี้รู้จักพวก
เรา, มันจักให้พวกเราฉิบหายเสียบัดนี้."

ทรงเห็นโจรหนีเพราะมนต์ของมาณพ


พระราชาทอดพระเนตรเห็นโจรเหล่านั้นกำลังหนีไป และได้ทรง
สดับเสียงมาณพนอกนี้สาธยายมนต์อยู่ ทรงกำหนด (ความเป็นไป)
ของพวกชาวเมืองได้แล้ว จึงเสด็จเข้าพระราชนิเวศน์; แลเมื่อราตรีสว่าง
แล้ว พอเช้าตรู่ ก็รับสั่งเรียกบุรุษคนหนึ่ง ( มาเฝ้า) ตรัสว่า " พนาย
เธอจงไป พวกโจรขุดอุโมงค์ในเรือนชื่อโน้น ในถนนโน้น, ในเรือน
หลังนั้น มีมาณพเรียนศิลปะมาแต่เมืองตักกศิลา (คนหนึ่ง) เธอจงนำ
เขามา."
เขาไปบอกว่า " พระเจ้าอยู่หัว รับสั่งหาท่าน" แล้วนำมาณพมา.
ลำดับนั้น พระราชาตรัสกะเขาว่า " พ่อ เธอเป็นมาณพผู้เรียน
ศิลปะมาจากเมืองตักกสิลาหรือ ?"
มาณพ. พระเจ้าข้า พระอาชญาไม่พ้นเกล้า.
พระราชา. ให้ศิลปะแกฉันบ้างเถิด.
มาณพ. ดีละ พระเจ้าข้า ขอพระองค์ประทับบนอาสนะที่เสมอกัน
แล้วเรียนเถิด.
ลำดับนั้น พระราชาทรงทำอย่างนั้น ทรงเรียนมนต์นั้นกะเขาแล้ว
ได้พระราชทานทรัพย์พันหนึ่ง ด้วยพระดำรัสว่า " นี้ เป็นส่วนบูชา
อาจารย์ของท่าน. "