เมนู

พระจูฬปันถกนิรมิตตนเป็นภิกษุพันรูป


ในขณะนั้น พระจูฬปันถกคิดว่า "พี่ชายของเราพูดว่า 'ภิกษุ
ในวิหารไม่มี,' เราจักประกาศความที่ภิกษุในวิหารมีแก่ท่าน (พี่ชาย)
ดังนี้แล้ว จึง (นิรมิต) ให้อัมพวันทั้งสิ้นเต็มด้วยภิกษุทั้งนั้น ภิกษุ
บางพวกเย็บจีวร, บางพวกย้อมจีวร, บางพวกทำการสาธยาย; นิรมิต
ภิกษุพันรูป ไม่เหมือนกันและกันอย่างนี้.
บุรุษนั้นเห็นภิกษุเป็นอันมากในวิหาร จึงกลับมาบอกแก่หมอชีวกว่า
" คุณหมอขอรับ อัมพวันทั้งสิ้น เต็มด้วยภิกษุทั้งหลาย."
(พระธรรมสังคาหกาจารย์ กล่าวว่า)
"ฝ่ายพระเถระ ชื่อว่าจูฬปันถก นิรมิตตน
พันครั้ง (เป็นภิกษุพันรูป) ในอัมพวันนั้นแล
แล้วนั่งในอันพวันอันน่ารื่นรมย์ จนกว่าเขาจะบอก
เวลา."

ลำดับนั้น พระศาสดา ตรัสกะบุรุษนั้นว่า "เธอจงไปวิหาร
บอกว่า "พระศาสดารับสั่งหาพระชื่อจูฬปันถก."
เมื่อบุรุษนั้นไปบอกตามรับสั่งแล้ว ทั้งพันปากก็ขานว่า "ข้าพเจ้า
ชื่อจูฬปันถก, ข้าพเจ้าชื่อจูฬปันถก."
บุรุษนั้นกลับไปกราบทูลอีกว่า "พระเจ้าข้า ได้ยินว่า ภิกษุแม้
ทุกรูปชื่อจูฬปันถกทั้งนั้น ?:
พระศาสดาตรัสว่า " ถ้ากระนั้น เธอจงไป. รูปใดเอ่ยก่อนว่า

'ข้าพเจ้าชื่อจูฬปันถก,' จงจับมือรูปนั้นไว้,1 รูปที่เหลือจักหายไป."
เขาได้ทำตามรับสั่ง. ภิกษุประมาณพันรูป หายไปแล้วทันที
ทีเดียว. พระเถระได้ไปกับบุรุษนั้น.

พระศาสดารับสั่งให้จูฬปันถกอนุโมทนา


ในเวลาเสร็จภัตกิจ พระศาสดาตรัสเรียกหมอชีวกมารับสั่งว่า
" ชีวก เธอจงรับบาตรของจูฬปันถกเถิด, จูฬปันถกนี้จักทำอนุโมทนา
แก่เธอ." หมอชีวกได้ทำอย่างนั้นแล้ว. พระเถระบันลือสีหนาท ดุจ
สีหะที่ขึ้นรุ่น (กำลังคะนอง) ได้ทำอนุโมทนา ยังพระไตรปิฎกให้
กระฉ่อนแล้ว.
พระศาสดาเสด็จลุกจากอาสนะ มีภิกษุสงฆ์แวดล้อมเสด็จไปสู่วิหาร,
เมื่อภิกษุทั้งหลายแสดงวัตรแล้ว. เสด็จลุกจากอาสนะ ทรงยืนที่หน้ามุข
พระคันธกุฎี ประทานสุคโตวาท ตรัสบอกกัมมัฏฐานแก่ภิกษุสงฆ์ ทรง
ส่งภิกษุสงฆ์ไปแล้ว เสด็จเข้าสู่พระคันธกุฎีที่อบด้วยกลิ่นหอมฟุ้ง ทรง
ผทมสีหไสยาโดยพระ1 ปรัศว์เบื้องขวา.

พวกภิกษุปรารภพระคุณของพระศาสดา


ครั้นในเวลาเย็น ภิกษุทั้งหลายนั่งประชุมกันข้างนี้และข้างโน้น
ดุจแวดวงด้วยม่านรัตตกัมพล3 ปรารภถึงเรื่องพระคุณของพระศาสดาว่า
"ท่านผู้มีอายุ พระมหาปันถกไม่ทราบอัธยาศัยของพระจูฬปันถก จึง

1. ตํ หตฺเถ คณฺห จักรูปนั้นไว้ที่มือ. 2 นอนตะแคงข้างขวา
3.ผู้ทอด้วยขนสัตว์มีสีแดง.