เมนู

ของพี่ชายเรา จักแยก (หมดเยื่อใย) ในเราแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย;
บัดนี้ เราจะต้องการอะไรด้วยศาสนานี้, เราจักเป็นคฤหัสถ์ทำบุญต่าง ๆ
มีทานเป็นต้นเลี้ยงชีพละ." วันรุ่งขึ้น เธอไปเพื่อจะสึกแต่เช้าตรู่.
พระศาสดา ทรงตรวจดูโลก ( คือหมู่สัตว์) เฉพาะในเวลาใกล้รุ่ง
ทรงเห็นเหตุนี้แล้ว จึงเสด็จล่วงหน้าไปก่อน ได้ทรงหยุดจงกรมอยู่ที่ซุ้ม
ประตูใกล้ทางที่พระจูพปันถกไป. พระจูฬปันถกเมื่อเดินไปพบพระศาสดา
จึงเข้าไปเฝ้าถวายบังคม.

พระศาสดาทรงรับรองให้อยู่ต่อไป


ขณะนั้น พระศาสดาตรัสกะเธอว่า "จูฬปันถก นี่เธอจะไปไหน ?
ในเวลานี้."
จูฬปันถกทูลว่า " พระพี่ชายขับไล่ข้าพระองค์ พระเจ้าข้า ข้า-
พระองค์ไปเพื่อจะสึก เพราะเหตุนั้น. "
พระศาสดา ตรัสว่า จูฬปันถก เธอชื่อว่าบรรพชาในสำนัก
ของเรา, แม้ถูกพี่ชายขับไล่ ทำไม จึงไม่มาสู่สำนักของเรา ? มาเถิด,
เธอจะต้องการอะไรด้วยความเป็นคฤหัสถ์ เธอต้องอยู่ (ต่อไป ) ใน
สำนักของเรา" ดังนี้แล้ว ทรงเอาฝ่าพระหัตถ์อันมีพื้นวิจิตรไปด้วยจักร
ลูบเธอที่ศีรษะแล้ว พาไปให้นั่งที่หน้ามุขพระคันธกุฎี ประทานท่อนผ้าที่
สะอาด ซึ่งทรงบันดาลขึ้นด้วยฤทธิ์ ด้วยตรัสสั่งว่า "จูฬปันถก"
เธอจงผินหน้าไปทางทิศตะวันออก ลูบท่อนผ้านี้ ด้วยบริกรรมว่า
" รโชหรณํ. รโชหรณํ" (ผ้าเช็ดธุลี ๆ) อยู่ที่นี้แหละ ครั้นเมื่อเขา
กราบทูลเวลาแล้ว, มีภิกษุสงฆ์แวดล้อม เสด็จไปเรือนของหมอชีวก
ประทับนั่งบนอาสนะที่เขาตกแต่งไว้.