เมนู

จูฬปันถกบวชแล้วกลายเป็นคนโง่


พระเถระให้จูฬปันถกบวชแล้ว ให้ตั้งอยู่ในศีลทั้งหลาย. แม้
จูฬปันถกนั้นพอบวชแล้ว ได้เป็นคนโง่เขลา.
พระเถระเมื่อพร่ำสอนเธอ กล่าวคาถานี้ว่า
"ดอกบัวโกกุนท มีกลิ่นหอม บานแต่เช้า
พึงมีกลิ่นไม่ไปปราศฉันใด, เธอจงเห็นพระอังคีรส
ผู้ไพโรจน์อยู่ ดุจพระอาทิตย์ส่องแสงในกลางหาว
ฉันนั้น."

คาถาเดียวเท่านั้น โดย 4 เดือน เธอก็ไม่สามารถจะเรียนได้.

บุรพกรรมของพระจูฬปันถก


ถามว่า " เพราะอะไร ?"
แก้ว่า "ได้ยินว่า เธอบวชในกาลพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้มีปัญญา ได้ทำการหัวเราะเยาะ ในเวลาที่ภิกษุเขลารูปใดรูปหนึ่ง
เรียนอุเทศ, ภิกษุนั้นละอายเพราะการหัวเราะนั้น เลยเลิกเรียนอุเทศ ไม่
ทำการสาธยาย.
เพราะกรรมนั้น จูฬปันถกนี้ พอบวชแล้ว จึงเป็นคนโง่, บทที่
เรียนแล้ว ๆ เมื่อเธอเรียนบทต่อ ๆ ไป ก็เลือนหายไป. เมื่อเธอพยายาม
เพื่อเรียนคาถานี้แล. สี่เดือนล่วงไปแล้ว.

จูฬปันถกถูกพระพี่ชายประฌาน


ทีนั้น พระมหาปันถก ได้กล่าวกะเธอว่า "จูฬปันถก เธอเป็น
คนอาภัพในศาสนานี้, โดย 4 เดือน แม้คาถาเดียวก็ไม่อาจเรียนได้,
ก็เธอจักยังกิจแห่งบรรพชิตให้ถึงที่สุดได้อย่างไร ? จงออกไปจากที่นี้
เสียเถิด." ดังนี้แล้ว ก็ขับออกจากวิหาร.
พระจูฬปันถกไม่ปรารถนาความเป็นคฤหัสถ์ เพราะความเยื่อใยใน
พระพุทธศาสนา.
ก็ในกาลนั้น พระมหาปันถกเป็นภัตตุเทสก์. หมอชีวกโกมารภัจ
ถือระเบียบดอกไม้ของหอมและเครื่องลูบไล้เป็นอันมากไปสู่อัมพวัน บูชา
พระศาสดา สดับธรรม ลุกจากอาสนะ ถวายบังคมพระทศพลแล้ว
เข้าไปหาพระมหาปันถก ถามว่า "ภิกษุในสำนักของพระศาสดา มี
จำนวนเท่าไร ขอรับ."
พระมหาปันถก. ภิกษุมีประมาณ 500 รูป.
หมอชีวก. ท่านผู้เจริญ พรุ่งนี้ ขอใต้เท้าได้พาภิกษุ 500 รูป
มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข (ไป) รับภิกษาในเรือนของกระผม.
พระมหาปันถก. อุบาสก ภิกษุโง่ (รูปหนึ่ง) ชื่อจูฬปันถก
มีธรรมไม่งอกงาม, รูปจะเว้นเธอเสีย แล้วรับนิมนต์เพื่อภิกษุทั้งหลาย
ที่เหลือ.

พระจูฬปักถกหนีไปสึกแต่สึกไม่ได้


พระจูฬปันถกฟังคำนั้นแล้ว คิดว่า " พระเถระ เมื่อรับนิมนต์
เพื่อภิกษุทั้งหลายมีประมาณเท่านั้น ก็คัดเราไว้ภายนอกแล้วจึงรับ, จิต