เมนู

มาคันทิยา ซึ่งมาแล้ว ๆ แม้พวกคนผู้มิใช่ญาติของพระนางมาคันทิยา
เห็นสักการะนั้นแล้ว ก็ให้สินจ้าง กล่าวว่า " พวกเราเป็นญาติของ
พระนางมาคันทิยา" พากันมาแล้ว. พระราชารับสั่งให้จับคนเหล่านั้น
ทั้งหมดไว้ แล้วให้ขุดหลุมทั้งหลายประมาณแค่สะดือ ที่พระลานหลวง
แล้ว ให้คนเหล่านั้นนั่งลงในหลุมเหล่านั้นเอาดินร่วนกลบ ให้เกลี่ยฟาง
ไว้เบื้องบน แล้วจุดไฟ, ในเวลาที่หนังถูกไฟไหม้แล้ว, รับสั่งให้ไถ
ด้วยไถเหล็กทั้งหลาย ให้ทำให้เป็นท่อนและหาท่อนมิได้ (หรือ) เป็น
ชิ้นและหาชิ้นมิได้. พระราชารับสั่งให้เชือดเนื้อ แม้จากสรีระของพระ-
นางมาคันทิยา ตรงที่มีเนื้อล่ำ ๆ ด้วยมีดอันคมกริบแล้ว ให้ยกขึ้นสู่
เตาไฟอันเดือดด้วยน้ำมัน ให้ทอดดุจขนมแล้ว ให้เคี้ยวกินเนื้อนั้นแล.

ความตายของพระนางสามาวดีควรแก่กรรมในปางก่อน


ต่อมาวันหนึ่ง ภิกษุทั้งหลาย สนทนากันในโรงธรรมว่า1 " ความ
ตายเช่นนี้ ของอุบาสิกาผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธาเห็นปานนี้ ไม่สมควรเลย
หนอ ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย."
พระศาสดาเสด็จมาตรัสถามว่า " ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เธอทั้งหลาย
นั่งประชุมกันด้วยเรื่องอะไรหนอ ?" เมื่อพวกภิกษุนั้นกราบทูลว่า "ด้วย
เรื่องชื่อนี้ " ดังนี้แล้ว ตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย ความตายนั่นของหญิง
ทั้งหลาย มีพระนางสามาวดีเป็นประมุข ไม่ควรแล้วในอัตภาพนี้ แต่ว่า
ความตายอันหญิงเหล่านั้นได้แล้ว สมควรแท้แก่กรรมซึ่งเขาทำไว้ใน
กาลก่อน," อันภิกษุเหล่านั้นทูลอาราธนาว่า " กรรมอะไร อันหญิง

1. ยังกถาให้ตั้งขึ้นในโรงธรรม.

เหล่านั้นทำไว้ในกาลก่อน พระเจ้าข้า ? ขอพระองค์จงตรัสบอกแก่
ข้าพระองค์ทั้งหลาย" ดังนี้แล้ว จึงทรงนำอดีตนิทานมา (เล่าว่า)

บุรพกรรมของพระนางสามาวดีกับบริวาร


ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัต ครองราชสมบัติอยู่ในกรุง
พาราณสี พระปัจเจกพุทธเจ้า 8 องค์ ฉันอยู่ในพระราชวังเนืองนิตย์.
หญิง 500 คน ย่อมบำรุงพระปัจเจกพุทธเจ้าเหล่านั้น. ในท่านเหล่านั้น
พระปัจเจกพุทธเจ้า 7 องค์ไปสู่หิมวันตประเทศ อีกองค์หนึ่ง นั่งเข้า
ฌานอยู่ในที่รกด้วยหญ้าแห่งหนึ่งริมแม่น้ำ. ต่อมาวันหนึ่ง เมื่อพระ-
ปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายไปแล้ว, พระราชาทรงพาหญิงเหล่านั้นไป เพื่อ
ทรงเล่นน้ำในแม่น้ำ. ณ สถานที่นั้น หญิงเหล่านั้นเล่นน้ำตลอดส่วน
แห่งวัน ขึ้นแล้ว ถูกความหนาวบีบคั้นเทียวใคร่จะผิงไฟ กล่าวกันว่า
"ท่านทั้งหลาย พึงหาดูที่ก่อไฟของพวกเรา," เที่ยวไป ๆ มา ๆ อยู่
เห็นที่รกด้วยหญ้า (ชัฏหญ้า ) นั้น จึงยืนล้อมก่อไฟแล้ว ด้วยสำคัญว่า
" กองหญ้า" เมื่อหญ้าทั้งหลายไหม้แล้วก็ยุบลง, หญิงเหล่านั้นแลเห็น
พระปัจเจกพุทธเจ้า จึงกล่าวกันว่า " พวกเรา ฉิบหายแล้ว ! พวกเรา
ฉิบหายแล้ว ! พระปัจเจกพุทธเจ้าของพระราชาถูกไฟคลอก, พระราชา
ทรงทราบจักทำพวกเราให้ฉิบหาย, เราจักทำท่านให้ไหม้ทั้งหมด," ทุกคน
นำฟืนมาจากที่โน้นที่นี้ ทำให้เป็นกองในเบื้องบนแห่งพระปัจเจกพุทธ-
เจ้านั้น กองฟืนใหญ่ได้มีแล้ว. ลำดับนั้น หญิงเหล่านั้นสุมฟืนนั้น
แล้วหลีกไป ด้วยสำคัญว่า "บัดนี้ จักไหม้ละ." ครั้งก่อน พวกเขา
เป็นผู้ไม่มีความจงใจ ก็ถูกกรรมติดตามแล้วในบัดนี้. ก็คนทั้งหลายแม้