พระองค์ด้วย," แม้พระราชาให้กลับอยู่ก็ไม่กลับ กราบทูลว่า "หม่อม
ฉันไม่ทราบว่า ' จักมีเหตุอะไร ? พระเจ้าข้า" ดังนั้นแล้ว ก็ได้ไปกับ
พระราชาจนได้. พระราชาทรงผ้า ดอกไม้ ของหอม และเครื่อง
อาภรณ์ ซึ่งหมู่หญิงรวมด้วยพระนางสามาวดีถวาย เสวยโภชนะอันดี
วางพิณไว้เบื้องบนพระเศียร แล้วบรรทมบนที่บรรทม. พระนาง
มาคันทิยาทำเป็นเดินไปมา ได้นำกลุ่มดอกไม้ออกจากช่องพิณ. งู
อดอาหารถึง 2-3 วัน เลื้อยออกมาจากช่องนั้นพ่น (พิษ) แผ่พังพาน
นอนบนแท่นที่บรรทมแล้ว. พระนางมาคันทิยาเห็นงูนั้น ก็ร้องแหว
ขึ้นว่า " งู พระเจ้าข้า" เมื่อจะด่าพระราชาและหญิงเหล่านั้น จึง
กล่าวว่า " พระเจ้าแผ่นดินโง่องค์นี้ไม่มีวาสนา ไม่ฟังคำพูดของเรา
แม้อีหญิงเหล่านี้ก็เป็นคนไม่มีสิริหัวดื้อ, พวกมันไม่ได้อะไรจากสำนัก
ของพระเจ้าแผ่นดินหรือ ? พวกเจ้า เมื่อพระเจ้าแผ่นดินพระองค์นี้
พอสวรรคตแล้ว จักเป็นอยู่สบายหรือหนอ ? เมื่อพระเจ้าแผ่นดินยัง
ทรงพระชนม์อยู่ พวกเจ้าเป็นอยู่ลำบากหรือ ? วันนี้เราเห็นการฝันร้าย
แล้ว, พระองค์เอ๋ย พระองค์ไม่ทรงฟังเสียงของหม่อมฉันแม้ผู้วิงวอน
อยู่ว่า ไม่ควรเสด็จไปปราสาทของพระนางสามาวดี."
พระเจ้าอุเทนลงโทษพระนางสามาวดี
พระราชาทอดพระเนตรเห็นงู ก็ทรงสะดุ้งพระหฤทัยกลัวแต่มรณะ
ได้เป็นประดุจลุกโพลงด้วยความพิโรธว่า " หญิงเหล่านี้มาทำกรรม
แม้เห็นปานนี้, ชิ ชิ เราก็ชั่วช้า ไม่เชื่อคำของนางมาคันทิยานี้ แม้
ผู้บอกความที่หญิงเหล่านี้เป็นคนลามก, ครั้งก่อนมันเจาะช่องไว้ในห้อง
ทั้งหลายของตนนั่งอยู่แล้ว. เมื่อเราส่งไก่ไปให้ก็ส่งคืนมาอีก, วันนี้ปล่อยงู
ไว้บนที่นอน."
ฝ่ายพระนางสามาวดี ก็ได้ให้โอวาทแก่หญิง 500 ว่า " แม่
ทั้งหลาย ที่พึ่งอื่นของพวกเราหามีไม่, ท่านทั้งหลายจงยังเมตตาจิตอัน
สม่ำเสมอนั่นแล ให้เป็นไปในพระราชาผู้เป็นจอมแห่งนรชน ในพระเทวี
และในตน, ท่านทั้งหลายอย่าทำความโกรธต่อใคร ๆ." พระราชา
ทรงถือธนูมีสัณฐานดังงาช้าง (หรือเขาสัตว์ ) ซึ่งมีกำลัง (แห่งการ
โก่ง) ของคนพันหนึ่ง ทรงขึ้นสายแล้วพาดลูกศรอันกำซาบด้วยยาพิษ
ทำพระนางสามาวดีไว้ ณ เบื้องหน้า ให้หญิงเหล่านั้นทุกคน ยืนตาม
ลำดับกันแล้ว จึงปล่อยลูกศรไปที่พระอุระของพระนางสามาวดี. ลูกศร
นั้น หวนกลับบ่ายหน้าสู่ทางที่ตนมาเที่ยว ประดุจจะเข้าไปสู่พระหทัย
ของพระราชา ได้ตั้งอยู่แล้วด้วยเมตตานุภาพ ของพระนางสามาวดีนั้น.
พระราชาทรงพระดำริว่า " ลูกศรที่เรายิงไป ย่อมแทงทะลุไปได้แม้ซึ่ง
ศิลา, แม้ฐานะที่จะกระทบในอากาศก็ไม่มี, ก็เมื่อเป็นเช่นนี้ ลูกศรนี้กลับ
มุ่งหน้ามาสู่หัวใจของเรา (ทำไม?); แท้จริง แม้ลูกศรนี้ ไม่มีจิต ไม่ใช่
สัตว์ ไม่ใช่ของมีชีวิต ยังรู้จักคุณของนางสามาวดี, ตัวเรา แม้เป็น
มนุษย์ก็หารู้ (คุณ) ไม่."
พระเจ้าอุเทนประทานพรแก่พระนางสามาวดี
ท้าวเธอทิ้งธนูเสีย ทรงประคองอัญชลี นั่งกระหย่งแทบบาทมูล
ของพระนางสามาวดี ตรัสพระคาถานี้ว่า