ธรรมกถาได้มีประโยชน์แก่มหาชนผู้ถึงพร้อมแล้ว, พระศาสดา
ครั้นทรงแสดงธรรมอย่างนั้นแล้ว ตรัสว่า " อานนท์ เธออย่าคิดแล้ว,
พวกเหล่านั้น จักด่าได้เพียง 7 วันเท่านั้น ในวันที่ 7 จักเป็นผู้นิ่ง;
เพราะว่า อธิกรณ์ซึ่งเกิดขึ้นแก่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ย่อมไม่เกิน 7 วัน
ไป."
พระนางมาคันทิยาหาความด้วยเรื่องไก่
พระนางมาคันทิยา ให้คนด่าพระศาสดาแล้ว (แต่) ไม่อาจให้
หนีไปได้ จึงคิดว่า " เราจักทำอย่างไรหนอ ?" ดังนี้แล้ว คิดว่า
" หญิงเหล่านี้ เป็นผู้อุปถัมภ์พระสมณโคดมนั้น, เราจักทำความฉิบหาย
ให้เเก่หญิงเหล่านั้น" วันหนึ่ง เมื่อทำการรับใช้อยู่ในที่เป็นที่เสวย
น้ำจัณฑ์แห่งพระราชา ส่งข่าวไปแก่อาว่า " โปรดทราบว่า ฉันมีความ
ต้องการด้วยไก่ทั้งหลาย, ขออาจงนำเอาไก่ตาย 8 ตัว ไก่เป็น 8 ตัวมา,
ก็แลครั้นมาแล้ว จงยืนอยู่ที่บันได บอกความที่ตนมาแล้ว แม้เมื่อ
รับสั่งว่า 'จงเข้ามา,' ก็อย่าเข้าไป จงส่งไก่เป็น 8 ตัวไปก่อน ส่งไก่ตาย
นอกนี้ไปภายหลัง," และนางได้ประทานสินจ้างแก่คนใช้ด้วยสั่งว่า
"เจ้าพึงการทำตามคำของเรา."
นายมาคันทิยะมาแล้ว ให้ทูลแด่พระราชาให้ทรงทราบ, เธอรับสั่ง
ว่า "จงเข้ามา" ก็กล่าวว่า " เราจักไม่เข้าไปสู่ที่เป็นที่เสวยน้ำจัณฑ์ของ
พระราชา." ฝ่ายพระนางมาคันทิยา ส่งคนใช้ไปด้วยคำว่า "พ่อ จงไป
สู่สำนักแห่งอาของเรา." เขาไปแล้ว นำไก่เป็น 8 ตัว ซึ่งนายมาคันทิยะ
นั้นให้แล้วมา กราบทูลว่า " ข้าแต่สมมติเทพ ท่านปุโรหิต ส่งเครื่อง
บรรณาการมาแล้ว." พระราชาตรัสว่า "ดีแท้ แกงอ่อมเกิดขึ้นแก่
พวกเราแล้ว, ใครหนอแล ? ควรแกง." พระนางมาคันทิยากราบทูล
ว่า " ข้าแต่มหาราช หญิง 500 มีพระนางสามาวดีเป็นประมุข เป็นผู้
ไม่มีการงานเที่ยวเตร่อยู่, ขอพระองค์จงส่งไปให้แก่หญิงเหล่านั้น;
หญิงเหล่านั้นแกงแล้วจักนำมา (ถวาย)." พระราชาทรงส่งไปด้วยพระ-
ดำรัสว่า " เจ้าจงไปให้แก่หญิงเหล่านั้น, ได้ยินว่า หญิงเหล่านั้น จง
อย่าให้ในมือคนอื่น จงฆ่าแกงเองทีเดียว." คนใช้รับพระดำรัสว่า "ดีละ
พระเจ้าข้า" แล้วไปบอกอย่างนั้น เป็นผู้อันหญิงเหล่านั้น คัดค้านแล้ว
ว่า " พวกฉันไม่ทำปาณาติบาต" จึงมาทูลความนั้นแด่พระราชา. พระ-
นางมาคันทิยา กราบทูลว่า " ข้าแต่มหาราช พระองค์เห็นไหม ? บัดนี้
พระองค์จักทรงทราบการทำหรือไม่ทำปาณาติบาตแห่งหญิงเหล่านั้น, ขอ
พระองค์จงรับสั่งว่า ' หญิงเหล่านั้นจงแกงส่งไปถวายแก่พระสมณโคดม'
ดังนี้เถิด พระเจ้าข้า."
พระราชาตรัสอย่างนั้นแล้วส่งไป. คนใช้นอกนี้ ถือทำเป็นเดิน
ไปอยู่ ไปแล้ว ให้ไก่เหล่านั้นแก่ปุโรหิต รับไก่ตายไปสู่สำนักของหญิง
เหล่านั้น กล่าวว่า " ได้ยินว่า พวกท่านแกงไก่เหล่านี้แล้ว จงส่งไปสู่
สำนักพระศาสดา." หญิงเหล่านั้นกล่าวรับรองว่า " นำมาเถิด นาย
ชื่อร่าการแกงไก่ตายนี้เป็นกิจของพวกเรา" ดังนี้แล้ว ก็รับไว้. คนใช้
นั้นมาสู่สำนักของพระราชา อันพระราชาตรัสถามว่า "เป็นอย่างไร ?
พ่อ" จึงกราบทูลว่า " เมื่อข้าพระองค์เพียงกล่าวว่า ' พวกท่าน จง
แกงส่งไปถวายพระสมณโคดม ' เท่านั้น, หญิงเหล่านั้น ก็สวนทางมา
รับเอาแล้ว." พระนางมาคันทิยา กราบทูลว่า " ข้าแต่มหาราช จงดูเถิด,
หญิงเหล่านั้น หาทำให้แก่บุคคลเช่นพระองค์ไม่; เมื่อหม่อมฉันทูลว่า
' หญิงเหล่านั้นมีความปรารถนาในภายนอก,' พระองค์ก็ไม่ทรงเชื่อ."
พระราชาแม้ทรงสดับคำนั้น ก็ได้ทรงอดกลั้นนิ่งไว้เช่นเดิม. พระนาง
มาคันทิยาคิดว่า " เราจะทำอย่างไรหนอแล ?"
พระนางมาคันทิยาหาความด้วยเรื่องงู
ก็ในกาลนั้น พระราชา ย่อมทรงยับยั้งอยู่ตลอด 7 วัน ตามวาระ
กัน ณ พื้นปราสาทแห่งหญิงทั้งสามนั้น คือ พระนางสามาวดี พระนาง
วาสุลทัตตาและพระนางมาคันทิยา. ลำดับนั้น พระนางมาคันทิยารู้ว่า
" พรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้ พระราชาจักเสด็จไปสู่พื้นปราสาทของพระนาง
สามาวดี" จึงส่งข่าวไปแก่อาว่า " โปรดทราบว่า ฉันมีความต้องการ
ด้วยงู, ขออาจงถอนเขี้ยวงูทั้งหลายแล้วส่งงูไปตัวหนึ่ง." นายมาคันทิยะ
กระทำอย่างนั้นแล้ว ส่งไป. พระราชาทรงถือเอาพิณหัสดีกันต์เที่ยว
เสด็จไปสู่ที่เป็นที่เสด็จไปของพระองค์. ในรางพิณนั้นมีช่อง ๆ หนึ่ง.
พระนางมาคันทิยา ปล่อยงูเข้าไปทางช่องนั้น แล้วปิดช่องเสียงด้วยกลุ่ม
ดอกไม้. งูได้อยู่ในภายในพิณนั้นเองตลอด 2-3 วัน. ในวันเสด็จไป
แห่งพระราชา พระนางมาคันทิยา ทูลถามว่า "ข้าแต่สมมติเทพ วันนี้
พระองค์จักเสด็จไปสู่ปราสาทของมเหสีคนไหน ?" เมื่อตรัสตอบว่า
" ของนางสามาวดี,. จึงกราบทูลว่า "ข้าแต่มหาราช วันนี้ หม่อมฉัน
เห็นสุบินไม่เป็นที่พอใจ, ข้าแต่สมมติเทพ พระองค์ไม่อาจเสด็จไปใน
ที่นั้นได้ พระเจ้าข้า. " พระราชา ตรัสว่า " เราจักไปให้ได้." พระนาง
ห้ามไว้ถึง 3 ครั้ง แล้วทูลว่า "เมื่อเป็นเช่นนี้ แม้หม่อนฉันจักไปกับ