เมนู

คร่ำครวญ แล่นเข้าราวป่า ได้หลีกไป ด้วยประการนั้นแล.

อาสนะท้าวสักกะร้อน


ด้วยเดชแห่งศีลแม้ของพระเถระ (ในขณะนั้น) บัณฑุกัมพล-
สิลาอาสน์1 ของท้าวสักกเทวราช ยาว 60 โยชน์ กว้าง 50 โยชน์
หนา 15 โยชน์ มีสีดุจดอกชัยพฤกษ์ มีปกติยุบลงในเวลาประทับนั่งและ
ฟูขึ้นในเวลาเสด็จลุกขึ้น แสดงอาการร้อนแล้ว.
ท้าวสักกเทวราช ทรงดำริว่า "ใครหนอแล ใคร่จะยังเราให้
เคลื่อนจากสถาน" ดังนี้แล้ว ทรงเล็งลงมา ได้ทอดพระเนตรเห็น
พระเถระด้วยทิพยจักษุ.
เหตุนั้น พระโบราณาจารย์ทั้งหลาย จึงกล่าวว่า
"ท้าวสหัสเนตร ผู้เป็นเจ้าแห่งเทวดา ส่องทิพย-
จักษุ (ทรงทราบว่า) พระปาลเถระองค์นี้ ติเตียน
คนบาป ชำระเครื่องเลี้ยงชีพให้บริสุทธิ์แล้ว, ท้าว
สหัสเนตร ผู้เป็นเจ้าแห่งเทวดา ส่องทิพยจักษุ
(ทรงทราบว่า) พระปาลเถระ องค์นี้หนักในธรรม
ยินดีในศาสนา นั่งอยู่แล้ว."

ขณะนั้น ท้าวเธอได้ทรงพระดำริว่า "ถ้าเราจักไม่ไปสู่สำนักของ
พระผู้เป็นเจ้า ผู้ติเตียนคนบาป หนักในธรรม เห็นปานนั้น, ศีรษะของ
เราพึงแตก 7 เสียง; เราจักไปสู่สำนักของท่าน," (ครั้นทรงพระดำริ
ฉะนี้แล้ว ก็เสด็จไป).

1. แผ่นศิลาที่ประทับ มีสีดุจผ้าขนสัตว์เหลือง.