เมนู

หนึ่งออก ภาชนะหนึ่งเข้า." ลูกสาวของเศรษฐีจึงคิดว่า "บัดนี้เป็นเวลา
ที่เขาควรไปได้" จึงบอกแก่เศรษฐีบุตรว่า " ทราบว่า คุณพ่อของท่าน
ป่วย." เมื่อเขากล่าวว่า " พูดอะไร ? หล่อน " จึงพูดว่า " ความไม่
สำราญมีแก่บิดาของท่านนั้น นาย."
โฆสกะ. บัดนี้ ฉันควรทำอย่างไร ?
เศรษฐีธิดา. นาย เราจักถือเครื่องบรรณาการอันเกิดจากบ้านส่วย
100 บ้าน ไปเยี่ยมท่าน.
นายโฆสกะนั้น รับว่า " จ้ะ" แล้วให้คนนำเครื่องบรรณาการมา
เอาเกวียนบรรทุก หลีกไปแล้ว.
ครั้งนั้น ลูกสาวของเศรษฐีนั้น พูดกะโฆสกะนั้นว่า "บิดา
ของท่านถอยกำลัง, เมื่อเราถือเอาเครื่องบรรณาการมีประมาณเท่านี้ไป
จักเป็นการเนิ่นช้า, ขอท่านจงให้ขนบรรณาการนี้กลับเถิด " ดังนี้แล้ว
จึงส่งบรรณาการนั้นทั้งหมดไปสู่เรือนแห่งตระกูลของตน แล้วพูดอีกว่า
"นาย ท่านพึงยืนข้างเท้าแห่งบิดาของท่าน, ฉันจักยืนข้างเหนือศีรษะ."
เมื่อเข้าไปสู่เรือนนั่นเทียว นางก็บังคับพวกคนของตนว่า "พวกท่าน
จงถือเอาการรักษาทั้งข้างหน้าเรือนทั้งข้างหลังเรือน. ก็ในเวลาที่เข้าไป
เศรษฐีบุตรได้ยืนอยู่แล้วที่ข้างเท้าของบิดา. ส่วนภรรยาได้ยืนข้างเหนือ
ศีรษะ.

เศรษฐีทำกาละ


ในขณะนั้น เศรษฐีนอนหงายแล้ว. ส่วนนายเสมียน เมื่อนวดเท้า
ของเศรษฐีนั้น จึงพูดว่า "นาย บุตรชายของท่านมาแล้ว."

เศรษฐี. เขาอยู่ที่ไหน ?
นายเสมียน. เขายืนอยู่ที่ปลายเท้า.
ครั้งนั้น เศรษฐีเห็นบุตรชายนั้นแล้ว จึงให้เรียกนายเสมียน
มาแล้ว ถามว่า " ในเรือนของฉันมีทรัพย์อยู่เท่าไร ?" เมื่อนายเสมียน
เรียนว่า " นาย มีอยู่ 40 โกฏิเท่านั้น, แต่เครื่องอุปโภคบริโภคและ
บ้าน นา สัตว์ 2 เท้า 4 เท้า ยานพาหนะ มีอยู่จำนวนเท่านี้ ๆ,"
ใคร่จะพูดว่า "ฉันไม่ให้ทรัพย์ มีประมาณเท่านี้แก่โฆสกะบุตรของฉัน,"
(กลับ) พูดว่า " ฉันให้." ลูกสาวเศรษฐีฟังคำนั้นแล้วคิดว่า " เศรษฐีนี้
เมื่อพูด พึงพูดคำอะไรอื่น" เป็นเหมือนเร่าร้อนด้วยความโศก สยายผม
ร้องไห้กล่าวว่า "คุณพ่อ พูดอะไรนี่, พวกเราฟังคำของท่าน ชื่อแม้นี้,
พวกเราไม่มีบุญหนอ" ดังนี้แล้ว จึงเอาศีรษะประหารเศรษฐีนั่นที่ท่าน-
กลางอก ล้มลงเอาศีรษะกลิ้งเกลือกอยู่ที่ท่ามกลางอกของเศรษฐีนั้น
แสดงอาการคร่ำครวญ จนเศรษฐีไม่อาจพูดได้อีก. แม้เศรษฐี ก็ได้ทำ
กาละในขณะนั้นเอง.

พระเจ้าอุเทนประทานตำแหน่งเศรษฐีแก่นายโฆสกะ


ชนทั้งหลายสดับว่า " เศรษฐีถึงอนิจกรรมแล้ว" จึงไปกราบทูล
พระเจ้าอุเทน. พระเจ้าอุเทน ทรงให้ทำฌาปนกิจสรีระของเศรษฐีนั้นแล้ว
ตรัสถามว่า " ก็ลูกชายหรือลูกหญิงของเศรษฐีนั้น มีอยู่หรือ ?"
ชนทั้งหลายกราบทูลว่า "มีอยู่ พระเจ้าข้า ลูกชายของเศรษฐีนั้น
ชื่อว่า โฆสกะ, เศรษฐีนั้น มอบหมายทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้แก่โฆสกะ
นั้นแล้ว ก็ถึงแก่อนิจกรรม พระเจ้าข้า." พระราชาทรงให้เรียกตัวเศรษฐี-