เมนู

นายเสมียนจึงถามว่า "หนังสือเพื่อการอะไร ? พ่อ จงบอกมา" รับเอา
หนังสือแล้ว อ่านดูก็มีความพอใจ จึงกล่าวกะคหบดีทั้งหลายว่า " ผู้เจริญ
ทั้งหลาย ขอเชิญท่านดูความรักใคร่ในเราของนายเรา. ท่านเศรษฐีส่ง
บุตรชายมายังสำนักของเรา ด้วยแจ้งว่า 'จงทำมงคลแก่บุตรคนโตของเรา'
พวกท่านจงรีบเอาไม้เป็นต้นมาเร็ว" ดังนี้แล้ว ให้ปลูกเรือนมีประการ
ดังกล่าวแล้วในท่ามกลางบ้าน ให้นำเครื่องบรรณาการมาแต่บ้าน 100 บ้าน
นำลูกสาวของเศรษฐีในชนบทมาการทำมงคลแล้ว จึงส่งข่าวไปแก่เศรษฐี
ว่า " การนี้ การนี้ ข้าพเจ้าทำเสร็จแล้ว."

เศรษฐีเสียใจจนเกิดโรค


เพราะได้ฟังข่าวนั้น ความเสียใจอย่างใหญ่ บังเกิดแก่เศรษฐี
แล้วว่า " เราให้ทำสิ่งใด สิ่งนั้นไม่สำเร็จ, สิ่งใดมิให้ทำ สิ่งนั้นก็กลับ
สำเร็จ." ความเศร้าโศกนั้น กับความเศร้าโศกถึงบุตร เป็นอันเดียวกัน
เทียว ยังความร้อนในท้องให้เกิดขึ้น ให้เกิดโรคอติสาร1แล้ว. แม้ลูกสาว
ของเศรษฐี ก็บังคับพวกคนว่า " ถ้าว่าใคร ๆ มาจากสำนักของเศรษฐี,
ท่านยังไม่บอกแก่เราแล้ว อย่าบอกแก่เศรษฐีบุตรก่อน. แม้เศรษฐีเล่า
ก็คิดว่า "บัดนี้ เราจะไม่ทำบุตรชั่วชาติคนนั้นให้เป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติ
ของเรา " ดังนี้แล้ว จึงบอกนายเสมียนคนหนึ่งว่า "ลุง ฉันปรารถนา
จะพบบุตรของฉัน, ท่านจงส่งคนรับใช้ไปคนหนึ่ง ให้เรียกบุตรของฉัน
มา." เขารับว่า " ได้จ้ะ" ให้หนังสือแล้ว ส่งคนผู้หนึ่งไป. ฝ่ายลูกสาว
ของเศรษฐี ทราบว่าบุรุษนั้นนายืนอยู่ที่ประตู ให้เรียกเขามาแล้ว ถามว่า
" อะไร ? พ่อ."

1. โรคอันยังโลหิตให้แล่นไปยิ่ง, โรคลงแดง.

คนรับใช้. เศรษฐี ไม่สบาย เพื่อจะพบลูกชาย ให้เรียก (เขา)
แม่เจ้า.
เศรษฐีธิดา. พ่อ เศรษฐียังมีกำลัง หรือถอยกำลัง ?
คนรับใช้. ยังมีกำลัง บริโภคอาหารได้อยู่ก่อน แม่เจ้า.
ลูกสาวเศรษฐีนั้น ไม่ให้บุตรเศรษฐีทราบเทียวให้ๆ ที่อยู่และเสบียง
เดินทางแก่เขาแล้ว กล่าวว่า "ท่านจักไปได้ในเวลาที่ฉันส่งไป จงพักอยู่
ก่อน.
มหาเศรษฐี ได้กล่าวกะนายเสมียนอีกว่า "ลุง ท่านยังไม่ได้ส่ง
หนังสือไปยังสำนักบุตรของฉันหรือ ?"
นายเสมียน. ส่งไปแล้ว นาย คนผู้ไปแล้ว ยังไม่มาก่อน.
เศรษฐี. ถ้ากระนั้น ท่านจงส่งผู้อื่นไปอีก.
นายเสมียนนั้นส่งไปแล้ว.
ลูกสาวของเศรษฐี ปฏิบัติแม้ในบุรุษนั้น อย่างนั้นเหมือนกัน.
ในกาลนั้น โรคของเศรษฐีหนักแล้ว. ภาชนะหนึ่งเข้า, ภาชนะหนึ่ง
ออก.
เศรษฐีจึงถามนายเสมียนอีกว่า " ลุง ท่านยังไม่ได้ส่งหนังสือไปยัง
สำนักบุตรของฉันแล้วหรือ."
นายเสมียน. ส่งไปแล้ว นาย แต่คนที่ไปยังไม่กลับ.
เศรษฐี. ถ้ากระนั้น ท่านจงส่งผู้อื่นไปอีก.
นายเสมียนนั้นส่งไปแล้ว. ลูกสาวเศรษฐี ถามประพฤติเหตุนั้น
แม้กะบุรุษผู้มาในวาระที่ 3 แล้ว. บุรุษผู้นั้นบอกว่า "ข้าแต่นาย
เศรษฐีป่วยหนัก ตัดอาหารเสียแล้ว มีความตายเป็นเบื้องหน้า, ภาชนะ

หนึ่งออก ภาชนะหนึ่งเข้า." ลูกสาวของเศรษฐีจึงคิดว่า "บัดนี้เป็นเวลา
ที่เขาควรไปได้" จึงบอกแก่เศรษฐีบุตรว่า " ทราบว่า คุณพ่อของท่าน
ป่วย." เมื่อเขากล่าวว่า " พูดอะไร ? หล่อน " จึงพูดว่า " ความไม่
สำราญมีแก่บิดาของท่านนั้น นาย."
โฆสกะ. บัดนี้ ฉันควรทำอย่างไร ?
เศรษฐีธิดา. นาย เราจักถือเครื่องบรรณาการอันเกิดจากบ้านส่วย
100 บ้าน ไปเยี่ยมท่าน.
นายโฆสกะนั้น รับว่า " จ้ะ" แล้วให้คนนำเครื่องบรรณาการมา
เอาเกวียนบรรทุก หลีกไปแล้ว.
ครั้งนั้น ลูกสาวของเศรษฐีนั้น พูดกะโฆสกะนั้นว่า "บิดา
ของท่านถอยกำลัง, เมื่อเราถือเอาเครื่องบรรณาการมีประมาณเท่านี้ไป
จักเป็นการเนิ่นช้า, ขอท่านจงให้ขนบรรณาการนี้กลับเถิด " ดังนี้แล้ว
จึงส่งบรรณาการนั้นทั้งหมดไปสู่เรือนแห่งตระกูลของตน แล้วพูดอีกว่า
"นาย ท่านพึงยืนข้างเท้าแห่งบิดาของท่าน, ฉันจักยืนข้างเหนือศีรษะ."
เมื่อเข้าไปสู่เรือนนั่นเทียว นางก็บังคับพวกคนของตนว่า "พวกท่าน
จงถือเอาการรักษาทั้งข้างหน้าเรือนทั้งข้างหลังเรือน. ก็ในเวลาที่เข้าไป
เศรษฐีบุตรได้ยืนอยู่แล้วที่ข้างเท้าของบิดา. ส่วนภรรยาได้ยืนข้างเหนือ
ศีรษะ.

เศรษฐีทำกาละ


ในขณะนั้น เศรษฐีนอนหงายแล้ว. ส่วนนายเสมียน เมื่อนวดเท้า
ของเศรษฐีนั้น จึงพูดว่า "นาย บุตรชายของท่านมาแล้ว."