เมนู

หญิงสาวใช้. มีหนังสืออยู่ที่ชายผ้าเจ้าค่ะ แม่เจ้า.
ธิดาเศรษฐีนั้นจึงคิดว่า "นั่นจะเป็นหนังสืออะไรหนอ ?"
เมื่อนายโฆสกะนั้นกำลังหลับอยู่, เมื่อมารดาบิดาไม่แลเห็น เพราะ
มัวเอาใจส่งไปในเรื่องอื่น, ลงไปสู่สำนัก (ของเขา) แล้ว แก้เอา
หนังสือนั้น เข้าไปยังห้องของตน ปิดประตู เปิดหน้าต่าง อ่านหนังสือ
เพราะนางฉลาดในอักษรสมัย แล้วคิดว่า "ตายจริง ! คนเขลา ผูก
หนังสือสำหรับฆ่าตัวที่ชายผ้าแล้วก็เที่ยวไป. ถ้าเราไม่เห็นหนังสือแล้ว
เขาคงไม่มีชีวิตอยู่" ดังนี้ แล้ว จึงฉีกหนังสือฉบับนั้นเสีย เขียนหนังสือ
อีกฉบับหนึ่ง ตามถ้อยคำของเศรษฐีว่า " ลูกชายของข้าพเจ้านี้ ชื่อเจ้า
โฆสกะ, จงให้นำเครื่องบรรณาการมาจากบ้าน (ส่วย) 100 บ้าน
ทำมงคลกับบุตรสาวเศรษฐีในชนบทนี้ ให้ปลูกเรือนขึ้น 2 ชั้นในท่าม
กลางบ้านเป็นที่อยู่ของตน ทำการรักษาอย่างแข็งแรง ด้วยเครื่องล้อมคือ
กำแพงและเครื่องล้อมคือบุรุษ, และจงส่งข่าวไปให้ข้าพเจ้าว่า " การนี้
การนี้ ฉันทำเสร็จแล้ว. " เมื่อกรรมอย่างนี้ท่านทำแล้ว ฉันจักรู้สิ่งที่ควร
ทำแก่ท่านลุงในภายหลัง, ก็แลครั้นเขียนเสร็จแล้ว นางจึงพับ ลงไปผูก
ไว้ที่ชายผ้าของนายโฆสกะนั้นตามเดิม.

นายโฆสกะได้ภรรยา


นายโฆสกะนั้น นอนหลับตลอดวัน ลุกขึ้นบริโภคแล้วก็หลีกไป.
ในวันรุ่งขึ้น เขาไปสู่บ้านนั้นแต่เช้าตรู่ แลเห็นนายเสมียนทำกิจในบ้าน
อยู่ทีเดียว. นายเสมียนนั้นเห็นนายโฆสกะนั้นแล้ว จึงถามว่า " อะไร ?
พ่อ " นายโฆสกะนั้น กล่าวว่า " คุณพ่อของผม ส่งหนังสือมาถึงท่าน"

นายเสมียนจึงถามว่า "หนังสือเพื่อการอะไร ? พ่อ จงบอกมา" รับเอา
หนังสือแล้ว อ่านดูก็มีความพอใจ จึงกล่าวกะคหบดีทั้งหลายว่า " ผู้เจริญ
ทั้งหลาย ขอเชิญท่านดูความรักใคร่ในเราของนายเรา. ท่านเศรษฐีส่ง
บุตรชายมายังสำนักของเรา ด้วยแจ้งว่า 'จงทำมงคลแก่บุตรคนโตของเรา'
พวกท่านจงรีบเอาไม้เป็นต้นมาเร็ว" ดังนี้แล้ว ให้ปลูกเรือนมีประการ
ดังกล่าวแล้วในท่ามกลางบ้าน ให้นำเครื่องบรรณาการมาแต่บ้าน 100 บ้าน
นำลูกสาวของเศรษฐีในชนบทมาการทำมงคลแล้ว จึงส่งข่าวไปแก่เศรษฐี
ว่า " การนี้ การนี้ ข้าพเจ้าทำเสร็จแล้ว."

เศรษฐีเสียใจจนเกิดโรค


เพราะได้ฟังข่าวนั้น ความเสียใจอย่างใหญ่ บังเกิดแก่เศรษฐี
แล้วว่า " เราให้ทำสิ่งใด สิ่งนั้นไม่สำเร็จ, สิ่งใดมิให้ทำ สิ่งนั้นก็กลับ
สำเร็จ." ความเศร้าโศกนั้น กับความเศร้าโศกถึงบุตร เป็นอันเดียวกัน
เทียว ยังความร้อนในท้องให้เกิดขึ้น ให้เกิดโรคอติสาร1แล้ว. แม้ลูกสาว
ของเศรษฐี ก็บังคับพวกคนว่า " ถ้าว่าใคร ๆ มาจากสำนักของเศรษฐี,
ท่านยังไม่บอกแก่เราแล้ว อย่าบอกแก่เศรษฐีบุตรก่อน. แม้เศรษฐีเล่า
ก็คิดว่า "บัดนี้ เราจะไม่ทำบุตรชั่วชาติคนนั้นให้เป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติ
ของเรา " ดังนี้แล้ว จึงบอกนายเสมียนคนหนึ่งว่า "ลุง ฉันปรารถนา
จะพบบุตรของฉัน, ท่านจงส่งคนรับใช้ไปคนหนึ่ง ให้เรียกบุตรของฉัน
มา." เขารับว่า " ได้จ้ะ" ให้หนังสือแล้ว ส่งคนผู้หนึ่งไป. ฝ่ายลูกสาว
ของเศรษฐี ทราบว่าบุรุษนั้นนายืนอยู่ที่ประตู ให้เรียกเขามาแล้ว ถามว่า
" อะไร ? พ่อ."

1. โรคอันยังโลหิตให้แล่นไปยิ่ง, โรคลงแดง.