เมนู

เลี้ยงภิกษุสงฆ์." เห็นธิดาของบุตรแล้ว จึงตั้งเขาไว้ในหน้าที่ของตน.
นางอังคาสภิกษุสงฆ์ในเรือนของนางวิสาขานั้น.
ถึงท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ก็ตั้งธิดาคนใหญ่ ชื่อมหาสุภัททาไว้.
ก็นางมหาสุภัททานั้น ทำการขวนขวายแก่ภิกษุทั้งหลายอยู่ (และ)
ฟังธรรมอยู่ เป็นพระโสดาบันแล้ว ได้ไปสู่สกุลแห่งสามี.
แต่นั้น ท่านอนาถบิณฑิกะ ก็ตั้งนางจุลสุภัททา (แทน). แม้
นางจุลสุภัททานั้น ก็ทำอยู่อย่างนั้นเหมือนกัน เป็นพระโสดาบันแล้ว
ก็ไปสู่สกุลแห่งสามี. ลำดับนั้น ท่านอนาถบิณฑิกะ จึงตั้งธิดาคนเล็ก
นามว่าสุมนาเทวี (แทน).

นางสุมนาป่วยเรียกบิดาว่าน้องชาย


ก็นางสุมนาเทวีนั้น ฟังธรรมแล้ว บรรลุสกทาคามิผล ยังเป็น
กุมาริกา (รุ่นสาว) อยู่เทียว, กระสับกระส่ายด้วยความไม่ผาสุก
เห็นปานนั้น ตัดอาหาร1 มีความประสงค์จะเห็นบิดา จึงให้เชิญมา.
ท่านเศรษฐีนั้น พอได้ยินข่าวของธิดาในโรงทานแห่งหนึ่ง ก็มาหาแล้ว
พูดว่า "เป็นอะไรหรือ ? แม่สุมนา." ธิดานั้น ตอบบิดาว่า "อะไรเล่า ?
น้องชาย"
บ. เจ้าเพ้อไปหรือ ? แม่.
ธ. ไม่เพ้อ น้องชาย.
บ. เจ้ากลัวหรือ ? แม่.
ธ. ไม่กลัว น้องชาย.
น.
1. อาหารุปจฺเฉทํ กตฺวา ทำการเข้าไปตัดซึ่งอาหาร.

แต่พอนางสุมนาเทวี กล่าวได้เพียงเท่านี้ ก็ได้ทำกาละแล้ว.

ท่านเศรษฐีผู้บิดาร้องให้ไปทูลพระศาสดา


ท่านเศรษฐีนั้น แม้เป็นพระโสดาบัน ก็ไม่สามารถจะกลั้นความ
โศกอันเกิดในธิดาได้ ให้ทำการปลง1ศพของธิดาเสร็จแล้ว ร้องไห้
ไปสู่สำนักพระศาสดา, เมื่อพระองค์ ตรัสว่า "คฤหบดี ทำไม ?
ท่านจึงมีทุกข์ เสียใจ มีหน้าอาบไปด้วยน้ำตา ร้องไห้ มาแล้ว " จึง
กราบทูลว่า " นางสุมนาเทวี ธิดาของข้าพระองค์ ทำกาละเสียแล้ว
พระเจ้าข้า."
ศ. เมื่อเป็นเช่นนั้น เหตุไร ? ท่านจึงโศก, ความตาย ย่อม
เป็นไปโดยส่วนเดียวแก่สรรพสัตว์ มิใช่หรือ ?
อ. ข้าพระองค์ทราบข้อนั้น พระเจ้าข้า แต่ธิดาของข้าพระองค์
ถึงพร้อมด้วยหิริและโอตตัปปะเห็นปานนี้, ในเวลาจวนตายนางไม่สามารถ
คุมสติไว้ได้เลย บ่นเพ้อตายไปแล้ว, ด้วยเหตุนั้นโทมนัสไม่น้อย จึงเกิด
แก่ข้าพระองค์.
ศ. มหาเศรษฐี ก็นางพูดอะไรเล่า ?
อ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เรียกนางว่า 'เป็นอะไร
หรือ ? สุมนา' ทีนั้น นางก็กล่าวกะข้าพระองค์ว่า 'อะไร ? น้องชาย'
แต่นั้น เมื่อข้าพระองค์กล่าวว่า ' เจ้าเพ้อไปหรือ ? แม่ ' ก็ตอบว่า
' ไม่เพ้อ น้องชาย ' เมื่อข้าพระองค์ถามว่า 'เจ้ากลัวหรือ ? แม่'
ก็ตอบว่า ' ไม่กลัว น้องชาย ' พอกล่าวได้เท่านี้ก็ทำกาละแล้ว.

1. สรีรกิจฺจํ.