เมนู

ปีติ พระเจ้าปิงคละมีพระเนตรไม่ดำ ได้เป็นที่รัก
ของเจ้าหรือ ? แน่ะ นายประตู เหตุไร ? เจ้าจึง
ร้องไห้."

นายประตูกล่าวตอบว่า
"พระราชา มีพระเนตรไม่ดำ หาได้เป็นที่รัก
ขอข้าพระองค์ไม่ ข้าพระองค์กลัวแต่การเสด็จกลับ
มาของพระราชานั้น ด้วยว่า พระราชาพระองค์นั้น
เสด็จไปจากที่นี้แล้ว พึงเบียดเบียนมัจจุราช มัจจุ-
ราชนั้นถูกเบียดเบียนแล้ว พึงนำพระองค์กลับมาที่นี้
อีก."

ผู้ทำบาปย่อมเดือดร้อนในโลกทั้งสอง


ภิกษุทั้งหลาย ทูลถามพระศาสดาว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
บัดนี้ พระเทวทัตเกิดแล้ว ณ ที่ไหน ?" พระศาสดาตรัสว่า "ในอเวจี
มหานรก ภิกษุทั้งหลาย" ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า "ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ พระเทวทัตประพฤติเดือดร้อนในโลกนี้แล้ว ไปเกิดในสถานที่
เดือดร้อนนั่นแลอีกหรือ ?"
พระศาสดา ตรัสว่า "อย่างนั้น ภิกษุทั้งหลาย ชนทั้งหลาย
จะเป็นบรรพชิตก็ตาม เป็นคฤหัสถ์ก็ตาม, มีปกติอยู่ด้วยความประมาท
ย่อมเดือดร้อนในโลกทั้งสองทีเดียว" ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า
12. อิธ ตปฺปติ เปจฺจ ตปฺปติ ปาปการี อุภยตฺถ ตปฺปติ
ปาปํ เม กตนฺติ ตปฺปติ ภิยฺโย ตปฺปติ ทุคฺคตึ คโต

"ผู้มีปกติทำบาป ย่อมเดือดร้อนในโลกนี้ ละ
ไปแล้วย่อมเดือดร้อน เขาย่อมเดือดร้อนใน
โลกทั้งสอง, เขาย่อมเดือดร้อนว่า 'กรรมชั่วเรา
ทำแล้ว,' ไปสู่ทุคติ ย่อมเดือดร้อนยิ่งขึ้น ."


แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น สองบทว่า อิธ ตปฺปติ ความว่า ย่อมเดือด
ร้อนในโลกนี้ ด้วยเหตุเพียงโทมทัส ด้วยความเดือดร้อนเพราะกรรม.
บทว่า เปจฺจ ความว่า ส่วนในโลกหน้า ย่อมเดือดร้อนเพราะ
ทุกข์ในอบายอันร้ายแรงยิ่ง ด้วยความเดือดร้อนเพราะวิบาก.
บทว่า ปาปการี ความว่า ผู้ทำบาป มีประการต่าง ๆ.
บทว่า อุภยตฺถ ความว่า ชื่อว่า ย่อมเดือดร้อนในโลกทั้งสอง
ด้วยความเดือดร้อน มีประการดังกล่าวแล้วนี้.
สองบทว่า ปาปํ เม ความว่า ก็ผู้มีปกติทำบาปนั้น เมื่อเดือดร้อน
ด้วยความเดือดร้อนเพราะกรรม ชื่อว่าย่อมเดือดร้อน ด้วยคิดว่า
"กรรมชั่วเราทำแล้ว," ข้อนั้นเป็นความเดือดร้อนมีประมาณเล็กน้อย;
แต่เมื่อเดือดร้อน ด้วยความเดือดร้อนเพราะวิบาก ชื่อว่า ไปสู่ทุคติ
ย่อมเดือดร้องขึ้น คือย่อมเดือดร้อนเหลือเกิน ด้วยความเดือดร้อน
อันหยาบช้าอย่างยิ่ง.
ในกาลจบคาถา ชนเป็นอันมาก ได้เป็นพระอริยบุคคล มีพระ-
โสดาบันเป็นต้นแล้ว. เทศนาเป็นประโยชน์แก่มหาชน ดังนี้แล.
เรื่องพระเทวทัต จบ.