อากาศแล้ว กราบทูลว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ท่านพระสารีบุตร
ในเวลาไป มีตนเป็นที่ 2 เท่านั้นไปแล้ว, บัดนี้มีบริวารมากมา ย่อม
งามแท้."
บุรพกรรมของพระเทวทัต
พระศาสดา ตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย มิใช่แต่บัดนี้เท่านั้น. แม้
ในกาลที่เธอเกิดในกำเนิดดิรัจฉาน บุตรของเรา มาสู่สำนักของเรา
ก็ย่อมงามเหมือนกัน " ดังนี้แล้ว ได้ตรัสชาดกนี้ว่า1
"ความจำเริญ ย่อมมีแก่ผู้มีศีลทั้งหลาย ผู้
ประพฤติปฏิสันถาร, ท่านจงดูเนื้อชื่อลักขณะ อัน
หมู่ญาติแวดล้อมมาอยู่, อนึ่ง ท่านจงดูเนื้อชื่อกาละนี้
ที่เสื่อมจากญาติทั้งหลายเทียว"
ดังนี้เป็นต้น, เมื่อพวกภิกษุกราบทูลอีกว่า " ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ได้ทราบว่า พระเทวทัต ให้พระอัครสาวก 2 องค์นั่งที่ข้างทั้งสองแล้ว
กล่าวว่า ' เราจะแสดงธรรมด้วยพุทธลีลา' ทำกิริยาตามอย่างพระองค์
แล้ว" ตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย ไม่ใช่แต่บัดนี้เท่านั้น, แม้ครั้งก่อน
เทวทัตนี้ ก็พยายามทำตามเยี่ยงอย่างของเรา แต่ไม่สามารถ" ดังนี้
แล้ว ตรัสนทีจรกากชาดก2ว่า
"เออก็ วีรกะ ท่านย่อมเห็นนก ชื่อสวิฏฐกะ
ซึ่งขานเพราะ มีสร้อยคอเหมือนนกยูง ซึ่งเป็นผัว
ของฉันไหม ? นกสวิฏฐกะ ทำเยี่ยงนกที่เที่ยวไป
1. ขุ. ชา. 27/4. อรรถกถา. 1/217. ลักขณชาดก.
2. ขุ. ชา. 27/75. อรรถกถา. 3/198. เรื่อง วีรชาดก.
ได้ทั้งในน้ำและบนบก บริโภคปลาสดเป็นนิตย์นั้น
ถูกสาหร่ายพันตายแล้ว"
ดังนี้เป็นต้น, แม้วันอื่น ๆ อีก ทรงปรารภกถาเช่นนั้นเหมือนกัน ตรัส
ชาดกทั้งหลายเป็นต้นอย่างนี้ว่า
"นกกระไนนี้ เมื่อจะเจาะซึ่งหมู่ไม้ทั้งหลาย ได้
เที่ยวไปแล้วหนอ ที่ต้นไม้มีอวัยวะเป็นไม้แห้งไม่มี
แก่น, ภายหลังมาถึงไม้ตะเคียน ที่มีแก่นเกิด
แล้ว ได้ทำลายขมองศีรษะแล้ว.1"
ละว่า "ไขข้อของท่าน ไหลออกแล้ว, กระหม่อม
ของท่าน อันช้างเหยียบแล้ว, ซี่โครงทุกซี่ของท่าน
อันช้างหักเสียแล้ว คราวนี้งามหน้าละซิเพื่อน2."
ทรงปรารภกถาว่า "พระเทวทัต เป็นผู้อกตัญญู," จึงตรัสชาดกทั้งหลาย
มีอาทิอีกว่า
"ข้าพเจ้าได้ทำกิจให้ท่านจนสุดกำลังของข้าพเจ้า
ที่มีอยู่เทียว, ข้าแต่พระยาเนื้อ ข้าพเจ้าขอนอบน้อม
ต่อท่าน, ข้าพเจ้าน่าได้อะไร ๆ บ้างซิ, ข้อที่เจ้า
อยู่ในระหว่างฟันของเรา ผู้มีโลหิตเป็นภักษา ทำ
กรรมหยาบช้าเป็นนิตย์ ยังเป็นอยู่ได้ ก็เป็นลาภ
มากอยู่แล้ว3."
ทรงปรารภความตะเกียกตะกาย เพื่อจะฆ่า (พระองค์) ของพระ-
1.ขุ. ชา. 27/77. อรรถกถา. 3/215. กันทคลกชาดก. 2. ขุ. ชา. 27/46. อรรถกถา.
2 384. วิโรจนชาดก. 3. ขุ. ชา. 27/133. อรรถกถา. 4/258. ชวสกุณชาดก.
เทวทัตนั้นอีก ตรัสชาดกทั้งหลายเป็นต้นว่า
"ดูก่อนไม้มะลื่น ข้อที่เจ้ากลิ้งมานี้ กวางรู้
แล้ว, เราจักไปยังไม้มะลื่นต้นอื่น เพราะว่าผลของ
เจ้า เราไม่ชอบใจ1"
เมื่อกถายังเป็นไปอยู่อีกว่า "พระเทวทัตเสื่อมแล้วจากผล 2 ประการ คือ
จากลาภและสักการะประการหนึ่ง จากสามัญผลประการหนึ่ง," พระผู้มี-
พระภาคเจ้า ตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย มิใช่แต่บัดนี้เท่านั้น, แม้ครั้งก่อน
เทวทัตก็เสื่อมแล้วเหมือนกัน " ดังนี้แล้ว ตรัสชาดกทั้งหลายเป็นต้นว่า
"ตาทั้งสองแตกแล้ว, ผ้าก็หายแล้ว, และ
เพื่อนบ้านก็บาดหมางกัน, ผัวและเมียสองคนนั้น
มีการงานเสียหายแล้วทั้งสองทาง คือ ทั้งทางน้ำ
ทั้งทางบก2."
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่กรุงราชคฤห์ ทรงปรารภพระเทวทัต
ตรัสชาดกเป็นอันมาก ด้วยประการอย่างนั้นแล้ว เสด็จ ( ออก ) จากกรุง
ราชคฤห์ไปสู่เมืองสาวัตถี ประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร.
พระเทวทัตให้สาวกนำไปเฝ้าพระศาสดา
ฝ่ายพระเทวทัตแล เป็นไข้ถึง 9 เดือน, ในกาลสุดท้าย ใคร่
จะเฝ้าพระศาสดา จึงบอกพวกสาวกของตนว่า " เราใคร่จะเฝ้าพระ-
ศาสดา, ท่านทั้งหลายจงแสดงพระศาสดานั้นแก่เราเถิด," เมื่อสาวก
เหล่านั้นตอบว่า " ท่านในเวลาที่ยังสามารถ ได้ประพฤติเป็นคนมีเวร
1. ขุ. ชา. 27/7. อรรถกถา. 1/261. กุรุงคมิคชาดก.
2. ขุ. ชา. 27/45. อรรถกถา. 2/274. อุภโตภัฏฐชาดก.