เมนู

พรหมจรรย์ไปได้, ข้าพเจ้าจักกล่าวคืนสิกขาแล้วสึก.1" พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงสดับความเป็นไปนั้นแล้ว รับสั่งให้หาท่านพระนันทะมาเฝ้าแล้ว
ตรัสคำนี้ว่า "จริงหรือนันทะ ? ได้ยินว่า เธอบอกกล่าวแก่ภิกษุหลายรูป
อย่างนี้ว่า 'ผู้มีอายุ ข้าพเจ้าไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ ไม่สามารถ
จะสืบต่อพรหมจรรย์ไปได้, ข้าพเจ้าจักกล่าวคืนสิกขาแล้วสึกหรือ ?"
น. จริงอย่างนั้น พระเจ้าข้า.
ภ. นันทะ ก็เธอไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์. ไม่สามารถจะสืบต่อ
พรหมจรรย์ไปได้, จะกล่าวคืนสิกขาสึกไปเพื่อเหตุอะไร ?
น. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อข้าพระองค์ออกจากเรือน นาง
ชนบทกัลยาณีผู้ศากิยะ มีผมอันเกล้าได้กึ่งหนึ่ง ได้ร้องสั่งคำนี้กะข้า
พระองค์ว่า 'ข้าแต่พระลูกเจ้า ขอพระลูกเจ้าพึงด่วนเสด็จมา,' ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์นั้นแล หวนระลึกถึงคำนั้นอยู่ จึงไม่ยินดี
ประพฤติพรหมจรรย์ ไม่สามารถจะสืบต่อพรหมจรรย์ไปได้, จักกล่าว
คืนสิกขาสึกไป."

พระศาสดาทรงทรมานพระนันทะ


ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงจับท่านพระนันทะที่พระพาหา
แล้ว นำไปสู่ดาวดึงสเทวโลกด้วยกำลังพระฤทธิ์, ในระหว่างทางทรง
แสดงนางลิงลุ่นตัวหนึ่ง ซึ่งมีหูจมูกและหางขาด นั่งเจ่าอยู่บนปลายตอไม้
ที่ไฟไหม้ ในนาที่ไฟไหม้แห่งหนึ่งแล้ว ทรงแสดง นางอัปสร 500
ซึ่งมีเท้าดังเท้านกพิราบ2ผู้มาสู่ที่บำรุงของท้าวสักกเทวราชในภพดาวดึงส์.

1. หีนายาวตฺติสฺสามิ จักเวียนมาเพื่อความเป็นคนเลว. 2. บทว่า กกุฏปาทนิ ได้แก่ มีเท้า
เช่นกับเท้านกพิราบ เพราะมีสีแดง.