เมนู

แล้ว ทรงอนุโมทนาแล้วเสด็จลุกจากอาสนะหลีกไป. แม้พระกุมาร ก็
ทูลขอว่า "ข้าแต่พระสมณะ ขอได้ประทานมรดกแก่ข้าพระองค์เถิด,
ข้าแต่พระสมณะ ขอได้ประทานมรดกแก่ข้าพระองค์เถิด" ดังนี้แล้วเสด็จ
ติดตามพระผู้มีพระภาคเจ้าไป. แม้พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ไม่ให้พระกุมาร
กลับ. ฝ่ายปริชนก็ไม่สามารถเพื่อจะเชิญพระกุมารผู้เสด็จไปกับพระผู้มี-
พระภาคเจ้าให้กลับได้. พระกุมารนั้นได้เสด็จไปถึงพระอารามทีเดียว
พร้อมด้วยพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยประการฉะนี้.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระดำริว่า "กุมารนี้อยากได้
ทรัพย์อันเป็นสมบัติของบิดา. ทรัพย์นั้นไปตามวัฏฏะ มีความคับแคบ;
ช่างเถิด เราจักให้อริยทรัพย์ 7 ประการ อันเราได้เฉพาะที่ควงไม้โพธิ
แก่เธอ, จะทำเธอให้เป็นเจ้าของมรดกอันเป็นโลกุตระ."

ราหุลกุมารบรรพชา


ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า รับสั่งให้หาท่านพระสารีบุตร
มาแล้วตรัสว่า "สารีบุตร ถ้ากระนั้น เธอจงให้ราหุลกุมารบวชเถิด."
พระเถระยังพระกุมารนั้นให้ผนวชแล้ว . ก็เมื่อพระกุมารผนวชแล้ว. ทุกข์
มีประมาณยิ่งได้เกิดขึ้นแก่พระราชาเพราะได้ทรงสดับข่าวนั้น.
พระราชาไม่ทรงสามารถเพื่อจะกลั้นความทุกข์นั้นไว้ได้ เสด็จไป
สู่สำนักพระผู้มีพระภาคเจ้า ทูลชี้แจงแล้วขอประทานพรว่า " พระเจ้าข้า
หม่อมฉัน ขอประทานพระวโรกาส พระผู้เป็นเจ้าทั้งหลายไม่พึงยังบุตรที่
มารดาบิดาไม่อนุญาตให้บวช."

พระผู้มีพระภาคเจ้า ประทานพรนั้นแด่ท้าวเธอแล้ว, รุ่งขึ้นวันหนึ่ง
เสวยพระกระยาหารเข้าในพระราชนิเวศน์แล้ว เมื่อพระราชาประทับอยู่
ณ ส่วนข้างหนึ่ง ทูลเล่าว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ในเวลาที่พระองค์
ทรงทำทุกรกิริยา เทวดาองค์หนึ่ง เข้ามาหาหม่อมฉันบอกว่า พระโอรส
ของพระองค์ทิวงคตแล้ว" หม่อนฉันไม่เชื่อถ้อยคำของเทวดานั้น จึง
คัดค้านเทวดานั้นว่า 'บุตรของข้าพเจ้ายังไม่บรรลุโพธิญาณ ย่อมไม่ทำ
กาละ" ดังนี้แล้ว, ตรัสว่า "มหาบพิตร บัดนี้ พระองค์จักเชื่อได้
อย่างไร ? แม้ในกาลก่อน เมื่อเขาแสดงร่างกระดูกแก่พระองค์ ทูลว่า
'บุตรของพระองค์ทิวงคตแล้ว' พระองค์ยังไม่ทรงเชื่อ" ได้ตรัสมหา-
ธรรมปาลชาดก1เพราะอุบัติเหตุแห่งเรื่องนี้. ในกาลจบกถา พระราชา
ดำรงอยู่ในอนาคามิผล.
พระผู้มีพระภาคเจ้า โปรดพระบิดาให้ดำรงอยู่ในผล 3 ด้วย
ประการฉะนี้แล้ว มีภิกษุสงฆ์แวดล้อม เสด็จกลับไปลู่กรุงราชคฤห์อีก,
แต่นั้น ทรงรับปฏิญญาไว้กับอนาถบิณฑิกเศรษฐี เพื่อประโยชน์แก่การ
เสด็จมาสู่กรุงสาวัตถี, ครั้นเมื่อพระเชตวันมหาวิหารสำเร็จแล้ว, เสด็จ
ไปจำพรรษาในพระเชตวันมหาวิหารนั้น.

พระนันทะอยากสึก


เมื่อพระศาสดา ประทับอยู่ในพระเชตวันอย่างนี้นั่นแล, ท่าน
พระนันทะกระสันขึ้นแล้ว จึงบอกเนื้อความนั้นแก่ภิกษุทั้งหลายว่า
"ผู้มีอายุ ข้าพเจ้าไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์, ไม่สามารถที่จะสืบต่อ

1. ขุ. ชา. อรรถกถา. 5/418.