เมนู

สมบัติในปราสาททั้งสามอันสมควรแก่ฤดูทั้งสามดุจสิริสมบัติในเทวโลก.

ทรงเห็นเทวทูตแล้วเสด็จบรรพชา


ในสมัยที่เสด็จไปเพื่อประพาสพระอุทยาน ทรงเห็นเทวทูต 3
กล่าวคือคนแก่ คนเจ็บ และคนตาย โดยลำดับ ทรงเกิดความสังเวช
เสด็จกลับแล้ว. ในวันที่ 4 ทรงเห็นบรรพชิต ยังความพอพระทัยใน
การบรรพชาให้เกิดขึ้นว่า "การบรรพชาดี, เสด็จไปสู่อุทยาน ยังวัน
ให้สิ้นไปในพระอุทยานนั้น ประทับนั่งริมขอบสระโบกขรณีอันเป็นมงคล
อันวิสสุกรรมเทพบุตรผู้จำแลงเพศเป็นช่างกัลบกมาตบแต่งถวาย ทรงสดับ
ข่าวประสูติของราหุลกุมาร ทรงทราบถึงความสิเนหาในพระโอรสมีกำลัง
ทรงพระดำริว่า "เราจักตัดเครื่องผูกนี้ จนผูกมัด (เรา ) ไม่ได้
ทีเดียว," เวลาเย็นเสด็จเข้าไปยิ่งพระนคร ทรงสดับคาถานี้ ที่พระธิดา
ของพระเจ้าอา พระนามว่า กิสาโคตมี ภาษิตว่า
"พระราชกุมารผู้เช่นนี้ เป็นพระราชโอรสแห่ง
พระชนนีพระชนก และเป็นพระสวามีของพระนาง
ใด ๆ พระชนนีพระชนกและพระนางนั้น ๆ ดับ
( เย็นใจ ) แน่แล้ว"

ทรงพระดำริว่า "เราอันพระนางกิสาโคตมีนี้ (สวด ) ให้ได้ยิน
นิพพุตบทแล้ว," จึงเปลื้องแก้วมุกดาหารจากพระศอ ส่งไปประทานแก่
พระนางแล้ว เสด็จเข้าไปสู่ที่อยู่ของพระองค์ ประทับนั่งบนพระแท่น
บรรทมอันมีสิริ ทอดพระเนตรเห็นประการอันแปลกของหมู่หญิงฟ้อนที่
เข้าถึงความหลับแล้ว มีพระทัยเบื่อหน่าย จึงปลุกนายฉันนะให้ลุกขึ้น ให้