เมนู

รัตนสูตร


ว่าด้วยรัตนอันประณีต


พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสรัตนสูตรเป็นคาถาว่าดังนี้
[7] หมู่ภูตเหล่าใด อยู่ภาคพื้นดิน หรือเหล่า
ใดอยู่ภาคพื้นอากาศ มาประชุมกันแล้วในที่นี้ ขอหมู่
ภูตทั้งหมด จงมีใจดี และจงฟังสุภาษิตโดยเคารพ
เพราะฉะนั้น ขอท่านฟังหมดจงตั้งใจฟัง จงแผ่เมตตา
ในหมู่ประชาที่เป็นมนุษย์ มนุษย์เหล่าใด ย่อมนำพลี
กรรมไปทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะฉะนั้น ท่าน
ทั้งหลาย จงไม่ประมาท ช่วยรักษามนุษย์เหล่านั้น.
ทรัพย์เครื่องปลื้มใจอย่างใดอย่างหนึ่งในในที่นี้
หรือในโลกอื่น หรือรัตนะใดอันประณีตในสวรรค์
ทรัพย์เครื่องปลื้มใจและรัตนะนั้นที่เสมอด้วยพระตถา-
คตไม่มีเลย แม้อันนี้เป็นรัตนะอันประณีตในพระพุทธ
เจ้า. ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี.
พระศากยมุนี พระหฤทัยตั้งมั่นทรงบรรลุธรรม
ใด เป็นที่สิ้นกิเลส ปราศจากราคะ เป็นอมตธรรม
ประณีต สิ่งไร ๆ ที่เสมอด้วยธรรมนั้นไม่มี แม้อันนี้
เป็นรัตนะอันประณีตในพระธรรม. ด้วยคำสัตย์นี้ ขอ
ความสวัสดีจงมี.

พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ทรงสรรเสริญสมาธิ
อันใดว่าเป็นธรรมอันสะอาด ปราชญ์ทั้งหลายกล่าว
สมาธิอันใดว่าให้ผลโดยลำดับ สมาธิอื่นที่เสมอด้วย
สมาธิอันนั้นไม่มี แม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีต
ในพระธรรม. ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี.
บุคคลเหล่าใด 8 จำพวก 4 คู่ อันสัตบุรุษทั้ง
หลายสรรเสริญแล้ว บุคคลเหล่านั้นเป็นสาวกของ
พระสุคต ควรแก่ทักษิณาทาน ทานทั้งหลาย ที่เขา
ถวายในบุคคลเหล่านั้นย่อมมีผลมาก แม้อันนี้ เป็น
รัตนะอันประณีตในพระสงฆ์ ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความ
สวัสดีจงมี.
พระอริยบุคคลเหล่าใด ในศาสนาของพระพุทธ-
โคดม ประกอบดีแล้ว มีใจมั่นคง ปราศจากความ
อาลัย พระอริยบุคคลเหล่านั้น ถึงพระอรหัตที่ควรถึง
หยั่งเข้าสู่พระนิพพาน ได้ความดับกิเลสเปล่า ๆ เสวย
ผลอยู่ แม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีตในพระสงฆ์
ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี.
พระโสดาบันจำพวกใด ทำให้แจ้งอริยสัจ ที่
พระศาสดาผู้มีปัญญาลึกซึ้งทรงแสดงดีแล้ว ถึงแม้ว่า
พระใสดาบันจำพวกนั้น จะเป็นผู้ประมาทอย่างแรง
กล้า ท่านก็ไม่ถือเอาภพที่ 8 แม้อันนี้ เป็นรัตนะอัน
ประณีตในพระสงฆ์ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี.


สักกาายทิฏฐิ วิจิกิจฉา และสีลัพพตปรามาส
อย่างใดอย่างหนึ่งมีอยู่ สังโยชน์ธรรมเหล่านั้นย่อมเป็น
อันพระโสดาบันละได้แล้ว พร้อมกับทัสสนสัมปทา
[คือโสดาปัตติมรรค] ที่เดียว อนึ่ง พระโสดาบัน
เป็นผู้พ้นแล้วจากอบายทั้ง 4 ไม่อาจที่จะทำอภิฐาน 6
[คืออนันตริยธรรม 5 กับการเข้ารีต] แน่อันนี้เป็น
รัตนะอันประณีตในพระสงฆ์ ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความ
สวัสดี จงมี.
ถึงแม้ว่าพระโสดาบันนั้น ยังทำบาปกรรมทาง
กายวาจาหรือใจไปบ้าง [เพราะความประมาท] ท่าน
ไม่อาจจะปกปิดบาปกรรมนั้นได้ พระผู้มีพระภาคเจ้า
ก็ตรัสความที่พระโสดาบัน ผู้เห็นบทคือพระนิพพาน
แล้ว ไม่อาจปกปิดบาปกรรมนั้นไว้แล้ว แม้อันนี้ เป็น
รัตนะอัน ประณีตในพระสงฆ์ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความ
สวัสดี จงมี.
พุ่มไม้งามในป่า ยอดมีดอกบานสะพรั่งในต้น
เดือนคิมหะ แห่งฤดูคิมหันต์ฉันใด พระผู้มีพระภาคเจ้า
ได้ทรงแสดงธรรมอันประเสริฐ อันให้ถึงพระนิพพาน
เพื่อประโยชน์อย่างยิ่งแก่สัตว์ทั้งหลาย ก็อุปมาฉันนั้น
แม้อันนี้เป็นรัตนะอันประณีตในพระพุทธเจ้า. ด้วยคำ
สัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงมี.
พระพุทธเจ้าผู้ประเสริญ ทรงรู้ธรรมอันประเสริฐ
ประทานธรรมอันประเสริญ ทรงนำมาซึ่งธรรมอัน

ประเสริฐ เป็นผู้ยอดเยี่ยม ได้ทรงแสดงธรรมอันประ-
เสริฐ. แม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีตในพระพุทธเจ้า.
ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงมี.
กรรมเก่าของพระอริยบุคคลเหล่าใดสิ้นแล้วกรรม
สมภพใหม่ ย่อมไม่มี พระอริยบุคคลเหล่าใด มีจิต
อันหน่ายแล้วในภพต่อไป พระอริยบุคคลเหล่านั้น มี
พืชสิ้นไปแล้ว มีความพอใจงอกไม่ได้แล้ว เป็นผู้มี
ปัญญา ย่อมปรินิพพานดับสนิท เหมือนประทีปดวงนี้
ฉะนั้น. แม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีตในพระสงฆ์
ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงมี.

ท้าวสักกเทวราชตรัสเสริมเป็นคาถาว่าดังนี้
หมู่ภูตเหล่าใดอยู่ภาคพื้นดิน หรือเหล่าใดอยู่
ภาคพื้นอากาศมาประชุมกันในที่นี้ พวกเรานอบน้อม
พระตถาคตพุทธะ ผู้อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว ขอ
ความสวัสดี จงมี.
หมู่ภูตเหล่าใดอยู่ภาคพื้นดิน หรือเหล่าใดอยู่ภาค
พื้นอากาศมาประชุมกัน แล้วในที่นี้พวกเรานอบน้อม
พระตถาคตธรรม อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว ขอ
ความสวัสดี จงมี.
หมู่ภูตเหล่าใด อยู่ภาคพื้นดิน หรือเหล่าใดอยู่
ภาคพื้นอากาศ มาประชุมกันแล้วในที่นี้ พวกเรานอบ
น้อมพระตถาคตสงฆ์ อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว
ขอความสวัสดี จงมี.

จบรัตนสูตร

พรรณนารัตนสูตร


ประโยชน์แห่งบทตั้ง


บัดนี้ ถึงลำดับการพรรณนาความแห่งรัตนสูตรที่ยกขึ้นตั้งในลำดับต่อ
จากมงคลสูตรนั้น โดยนัยเป็นต้นว่า ยานีธ ภูตานิ. ข้าพเจ้าจักกล่าวประ-
โยชน์แห่งการตั้งรัตนสูตรนั้น ไว้ในที่นี้ ต่อจากนั้น เมื่อแสดงการหยั่งลงสู่
ความแห่งสูตรนี้ ทางนิทานวจนะอันบริสุทธิ์ดี เหมือนการลงสู่น้ำในแม่น้ำ
และหนองเป็นต้น ทางท่าน้ำที่หมดจดดี ประกาศนัยนี้ว่า สูตรนี้ผู้ใดกล่าว
กล่าวเมื่อใด กล่าวที่ไหน กล่าวเพราะเหตุใด แล้วจึงทำการพรรณนาความ
แห่งรัตนสูตรนี้.
ในสองสูตรนั้น เพราะเหตุที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงการรักษา
ตัวเอง และการกำจัดอาสวะทั้งหลายที่มีการทำไม่ดี และการไม่ทำดีเป็นปัจจัย
ด้วยมงคลสูตร ส่วนสูตรนี้ ให้สำเร็จการรักษาผู้อื่น และการกำจัดอาสวะ
ทั้งหลายที่มีอมนุษย์เป็นต้นเป็นปัจจัย ฉะนั้น สูตรนี้จึงเป็นอันตั้งไว้ในลำดับ
ต่อจากมงคลสูตรนั้นแล.
ประโยชน์แห่งการตั้งรัตนสูตรนั้นไว้ในที่นี้เท่านี้ก่อน

เรื่องกรุงเวสาลี


บัดนี้ ในข้อว่า เยน วุตฺตํ ยทา ยติถ ยสฺมา เจตํ นี้ ผู้ทักท้วง
กล่าวว่า ก็สูตรนี้ผู้ใดกล่าว กล่าวเมื่อใด กล่าวที่ใด และกล่าวเพราะเหตุใด.
ขอชี้แจงดังนี้ ความจริง สูตรนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์เดียวตรัส พระสาวก
เป็นต้นหากล่าวไม่. ตรัสเมื่อใด. ตรัสเมื่อกรุงเวสาลีถูกอุปัทวะทั้งหลาย มีทุพภิกข-