เมนู

ชี้แจงสรณะคือพระธรรมและพระสงฆ์


บัดนี้ จะกล่าวอธิบายต่อไป. ในคำที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้ว่า แม้ในสรณะ
ทั้งสองมีว่า ธมฺมํ สรณํ เป็นต้น ก็รู้กันแล้วว่ามีนัยอย่างนี้เหมือนกัน. นัย
แห่งการพรรณนาความนี้ใด ข้าพเจ้ากล่าวไว้ในคำนี้ว่า พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ
ก็พึงทราบนัยแห่งการพรรณนาความนั้น ในสองบทนี้ว่า ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ
. จริงอยู่ ในข้อแม้นั้น ว่าโดยอรรถและพยัญชนะ
ของพระธรรมและพระสงฆ์ ก็มีเพียงการชี้แจงเท่านั้นที่ไม่เหมือนกัน นอกนั้น
ก็เหมือนกันกับที่กล่าวมาแล้วทั้งนั้น เพราะจะกล่าวอธิบายเฉพาะที่ไม่เหมือนกัน
ในพระธรรมและพระสงฆ์นี้ ดังนี้ อาจารย์พวกหนึ่งกล่าวว่า มรรค ผล นิพพาน
ชื่อว่า พระธรรม. ขันติ ความชอบใจหรือมติของพวกเราว่า มรรคและวิราคะ
เท่านั้น ชื่อว่าพระธรรมในอรรถนี้ เพราะทรงผู้เจริญมรรคผล และผู้ทำให้
แจ้งพระนิพพานแล้ว โดยไม่ให้ตกไปในอบายทั้งหลาย และทำให้โปร่งใจ
อย่างยิ่ง ขอยกอัคคัปปสาทสูตรนั้นแลเป็นข้อสาธก สมจริงดังที่พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสไว้ในอัคคัปปสาทสูตรนั้นเป็นต้นอย่างนี้ว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังธรรมนี้เพียงใด อริยมรรคประกอบ
ด้วยองค์ 8 ท่านกล่าวว่าเป็นยอดของสังขตธรรมเหล่านั้น. กลุ่มของ
บุคคลทั้งหลาย ผู้พรั่งพร้อมด้วยอริยมรรค 4 อย่าง และผู้มีขันธ-
สันดานอบรมยิ่งด้วยสามัญผล 4
ชื่อว่าพระสงฆ์ เพราะรวมตัวกันด้วย
การรวมทิฏฐิและศีล สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดังนี้ว่า
ดูก่อนอานนท์ เธอจะสำคัญข้อนั้นเป็นไฉน
ธรรมเหล่าใดที่เราแสดงเพื่อรู้ยิ่งสำหรับเธอทั้งหลาย
คือสติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 อินทรีย์

5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 อริยมรรคมีองค์ 8 อานนท์
เธอจะไม่เห็นภิกษุแม้ 2 รูป มีวาทะต่างนี้ในธรรม
เหล่านี้เลย.

จริงอยู่ พระสงฆ์โดยปรมัตถ์นี้ อันบุคคลพึงถึงว่าเป็นสรณะ ใน
พระสูตรที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า
เป็นผู้ควรของคำนับ ควรของต้อนรับ ควรของทำบุญ ควรทำอัญชลียกมือ
ไหว้ เป็นนาบุญของโลกยอดเยี่ยม. สรณคมน์ของผู้ถึงสรณะนั้น ย่อมไม่ขาด
ไม่เศร้าหมอง ด้วยการทำการไหว้เป็นต้น ในภิกษุสงฆ์หรือภิกษุณีสงฆ์แม้หมู่
อื่น หรือพระสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข หรือสมมติสงฆ์ต่างโดยสงฆ์
จตุวรรคเป็นต้น หรือแม้ในบุคคลคนหนึ่ง ซึ่งบวชเจาะจง พระผู้มีพระภาคเจ้า
ความต่างกันในสังฆสรณะที่มีเท่านี้ ส่วนวิธีการขาดและไม่ขาดเป็นต้นแห่ง
สรณคมน์นี้และที่สอง นอกเหนือจากที่กล่าวแล้ว พึงทราบตามนัยที่กล่าวมาก่อน
แล้ว การพรรณนาความข้อนี้ว่า แม้ในสองสรณะว่า ธมฺมํ สรณํ เป็นต้น
ก็รู้กันแล้วว่านัยนี้เหมือนกัน มีเท่านี้ก่อน.

อธิบายเหตุในการกำหนดตามลำดับ


ในคำนี้ว่า จะอธิบายเหตุในการกำหนดตามลำดับ บัดนี้จะอธิบายเหตุ
ในการกำหนดตามลำดับอย่างนี้ว่า ในคำถึงสรณทั้งสามนั้น ท่านประกาศ
พระพุทธเจ้าอันดับแรก เพราะเป็นผู้เลิศแห่งสัตว์ทั้งปวง ประกาศพระธรรม
อันดับต่อมา เพราะเป็นแดนเกิดของพระพุทธเจ้านั้น และเพราะเป็นธรรมที่
พระพุทธเจ้านั้นทรงนำออกสั่งสอนแล้ว ประกาศพระสงฆ์อันดับสุดท้าย เพราะ
เป็นผู้ทรงไว้ซึ่งพระธรรมนั้น และเพราะซ่องเสพพระธรรมนั้น อีกนัยหนึ่ง
ท่านประกาศพระพุทธเจ้าอันดับแรก เพราะทรงประกอบสัตว์ทั้งปวงไว้ใน