เมนู

ยศบริสุทธิ์อย่างยิ่ง ที่ทรงได้โดยพระคุณตามเป็นจริง ปรากฏทั่วสามโลก ทรง
มีพระสิริสง่างามทั่วสรรพางค์ บริบูรณ์ด้วยอาการทุกอย่าง ทรงสามารถให้เกิด
ขวัญตาขวัญใจแก่ผู้ขวนขวายเข้าชมพระรูปพระโฉมได้ทรงมีพระกามะ อันหมาย
ถึงความสำเร็จแห่งประโยชน์ที่ทรงประสงค์ เพราะประโยชน์ใด ๆ ที่ทรงประ-
สงค์แล้ว ปรารถนาแล้วจะเป็นประโยชน์ นี้ก็ตามประโยชน์ผู้อื่นก็ตามประโยชน์
นั้น ๆ ก็สำเร็จสมพระประสงค์ทั้งนั้น และทรงมีพระปยัตตะ กล่าวคือ สัมมาวา-
ยามะ อันเป็นเหตุเกิดความเป็นครูของโลกทั้งปวง ฉะนั้น ท่านจึงเรียกว่า ภควา
โดยอรรถนี้ว่าทรงมีภคธรรม เพราะความที่ทรงประกอบด้วยภคธรรมเหล่านั้น.

แก้บทวิภตฺตวา


อนึ่ง เพราะเหตุที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเป็น วิภตฺตวา ท่านอธิบาย
ว่า ทรงจำแนก เปิดเผย แสดง ซึ่งธรรมทั้งปวงโดยประเภทมีประเภทกุศล
เป็นต้น หรือซึ่งธรรมมีกุศลธรรมเป็นต้น โดยประเภทมีขันธ์ อายตนะ ธาตุ
สัจจะ อินทรีย์และปฏิจจสมุปบาทเป็นต้น หรือซึ่งทุกขอริยสัจ โดยอรรถคือ
ปีฬนะบีบคัน สังขตะอันปัจจัยปรุงแต่ง สันตาปะแผดเผา วิปริณามะแปรปรวน
หรือซึ่งสมุทัยอริยสัจ โดยอรรถคือ อายูหนะ ประมวลทุกข์มา นิทานะเหตุ
แห่งทุกข์ สังโยคะผูกไว้กับทุกข์ ปลิโพธะหน่วงไว้มิให้ถึงมรรค ซึ่งนิโรธ-
อริยสัจโดยอรรถคือ นิสสรณะออกไปจากทุกข์ วิเวกะสงัดจากทุกข์ อสัง-
ขตะอันปัจจัยมิได้ปรุงแต่ง อมตะเป็นสภาพไม่ตาย ซึ่งมรรคอริยสัจโดยอรรถ
คือ นิยยานิกะ นำออกจากทุกข์ เหตุ เหตุแห่งนิโรธ ทัสสนะเห็นพระนิพพาน
อธิปไตย ใหญ่ในการเห็นพระนิพพาน ฉะนั้น เมื่อน่าจะเรียก วิภตฺตวา แต่
ก็เรียกเสียว่า ภควา.

แก้บท ภตฺตวา


อนึ่ง เพราะเหตุที่พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงคบ ทรงเสพ ทรงทำ
ให้มาก ซึ่งธรรมอันเป็นทิพพวิหาร พรหมวิหารและอริยวิหาร ซึ่งกายวิเวก
จิตทวิเวก และอุปธิวิเวก ซึ่งสุญญตวิโมกข์ อัปปณิหิตวิโมกข์ และ อนิมิตตะ
วิโมกข์ และซึ่งอุตตริมนุสสธรรมทั้งที่เป็นโลกิยะและโลกุตระอื่นๆ ฉะนั้น
เมื่อน่าที่จะเรียกว่า ภตฺตวา แต่ก็เรียกเสียว่า ภควา

แก้บท ภเวสุ วนฺตคมน


อนึ่งเล่า เพราะเหตุที่การไป กล่าวคือ ตัณหาในภพทั้ง 3 อันพระ-
องค์ทรงคายเสียแล้ว ฉะนั้น เมื่อน่าที่จะเรียกว่า ภเวสุ วนฺตคมน แต่ท่าน
ถืออักษรจากภวศัพท์ อักษรจากคมนศัพท์ และวอักษรจากวันตศัพท์
แล้วทำให้เป็นทีฆะเสียงยาว เรียกเสียว่า ภควา เหมือนในทางโลก เนื้อน่า
จะเรียกเต็ม ๆ ว่า เมหนสฺส ขสฺส มาลา แต่ปราชญ์ท่าน [ถือเอา เม
จาก เมหนสฺส ข จาก ขสฺส ลา จากมาลา
] ก็เรียกเสียว่า เมขลา
ฉะนั้นแล.
ก็ท่านพระอานนท์เถระเมื่อแสดงธรรมตามที่ได้ฟังมา เล่าเรียนมา จึง
ประกาศพระสรีรธรรม [ตัวธรรม] ของพระผู้มีพระภาคเจ้าให้ประจักษ์ ด้วย
คำว่า เอวมฺเม สุตํ ในพระสูตรนี้ ด้วยคำเพียงเท่านี้ ด้วยเหตุนั้น พระ-
เถระจึงปลอบชนผู้มีใจพลุ่งพล่าน เพราะไม่พบพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ปาพจน์
[คือธรรมวินัย] นี้ ชื่อว่ามีศาสดาล่วงแล้ว หามิได้ ธรรมวินัยนี้เป็นศาสดา
ของท่านทั้งหลาย.
ด้วยคำว่า เอกํ สมยํ ภควา พระเถระเมื่อแสดงความที่พระผู้มี-
พระภาคเจ้าไม่มีอยู่ในสมัยนั้น ชื่อว่าแสดงปรินิพพานแห่งพระรูปกาย. ด้วย