เมนู

ปัญจมปัณณาสก์


ปฐมวรรคที่1 1


1. ยถาภตสูตร


ว่าด้วยบุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม 10 ประการ


เป็นผู้ถูกทอดทิ้งไว้ในนรกหรือได้รับเชิญมาไว้ในสวรรค์
[189] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม 10
ประการ เป็นผู้ถูกทอดทิ้งไว้ในนรก เหมือนสิ่งของที่เขานำมาทอดทิ้งไว้
ธรรม 10 ประการเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้
เป็นคนฆ่าสัตว์ หยาบช้า มีมือชุ่มด้วยโลหิต ตั้งอยู่ในการฆ่าและการ
ทุบตี ไม่มีความเอ็นดูในสัตว์ที่มีชีวิตทั้งปวง 1 เป็นคนลักทรัพย์ ถือเอา
วัตถุเป็นอุปกรณ์แก่ทรัพย์เครื่องปลื้มใจแห่งผู้อื่นของบุคคลอื่น ซึ่งอยู่ใน
บ้านหรือในป่า ที่เจ้าของมิได้ให้ด้วยจิตเป็นขโมย 1 เป็นผู้ประพฤติผิด
ในกาม คือ เป็นผู้ถึงความประพฤติล่วงในสตรีที่มารดารักษา บิดารักษา
พี่ชายน้องชายรักษา พี่สาวน้องสาวรักษา ญาติรักษา ธรรมรักษา ผู้มี
สามี ผู้มีอาชญาโดยรอบ โดยที่สุดแม้สตรีผู้ที่บุรุษคล้องแล้วด้วยพวง
มาลัย 1 เป็นผู้พูดเท็จ คือ เขาอยู่ในสภา ในบริษัท ในท่ามกลางญาติ
ในท่ามกลางเสนา หรือในท่ามกลางราชสกุล ถูกผู้อื่นนำไปเป็นพยานซัก
ถามว่า มาเถิดบุรุษผู้เจริญ ท่านรู้สิ่งใดจงพูดสิ่งนั้น ดังนี้ บุคคลผู้นั้น
เมื่อไม่รู้ก็กล่าวว่ารู้ หรือเมื่อรู้ก็กล่าวว่าไม่รู้ เมื่อไม่เห็นก็กล่าวว่าเห็น
หรือเห็นก็กล่าวว่าไม่เห็น เป็นผู้กล่าวเท็จทั้งรู้ เพราะเหตุแห่งตนบ้าง

1. วรรคนี้ บาลีมี 9 สูตร ๆ ละข้อ แต่อรรถกถามี 10 สูตร.

เพราะเหตุแห่งผู้อื่นบ้าง เพราะเหตุเห็นแก่อามิสเล็กน้อยบ้าง ด้วยประการ
ดังนี้ เป็นผู้พูดส่อเสียด คือ ฟังข้างนี้แล้วไปบอกข้างโน้น เพื่อทำลาย
คนหมูนี้ หรือฟังข้างโน้นมาบอกข้างนี้ เพื่อทำลายคนหมู่โน้น ยุยงคน
ทั้งหลายผู้สามัคคีกันให้แตกกัน หรือส่งเสริมคนผู้แตกกันแล้ว ชอบความ
แยกกัน ยินดีความแยกกัน เพลิดเพลินในความแยกกัน กล่าวแต่คำที่
ทำให้แยกกัน 1 เป็นผู้พูดคำหยาบ คือ กล่าววาจาหยาบช้า กล้าแข็ง
เดือดร้อนผู้อื่น เสียดสีผู้อื่น ใกล้ต่อความโกรธ ไม่เป็นไปเพื่อสมาธิ 1
เป็นผู้เพ้อเจ้อ คือ กล่าวไม่ถูกกาล กล่าวไม่จริง กล่าวไม่อิงธรรม
กล่าวไม่อิงวินัย กล่าววาจาที่ไม่มีหลักฐาน ไม่มีที่อ้างอิง ไม่มีที่สิ้นหลุด
ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ โดยกาลอันไม่ควร 1 เป็นผู้อยากได้ของผู้อื่น
คือ อยากได้วัตถุเป็นอุปกรณ์แก่ทรัพย์เครื่องปลื้มใจแห่งผู้อื่นของบุคคลอื่น
ว่า ไฉนหนอ วัตถุเป็นอุปกรณ์แก่ทรัพย์เครื่องปลื้มใจแห่งผู้อื่นของบุคคล
อื่นพึงเป็นของเรา ดังนี้ 1 เป็นผู้มีจิตคิดปองร้าย คือ มีความดำริ
ในใจอันชั่วร้ายว่า ขอสัตว์เหล่านี้จงถูกฆ่า จงถูกทำลาย จงขาดสูญ จง
พินาศ หรืออย่าได้เป็นแล้ว ดังนี้ 1 เป็นผู้มีความเห็นผิด คือ มีความ
เห็นวิปริตว่า ทานที่ให้แล้วไม่มีผล การเซ่นสรวงไม่มีผล การบูชาไม่มี
ผล ผลวิบากแห่งกรรมที่บุคคลทำดีทำชั่วไม่มี โลกนี้ไม่มี โลกหน้าไม่มี
มารดาไม่มี บิดาไม่มี สัตว์ผู้เป็นอุปปาติกะไม่มี สมณพราหมณ์ผู้ดำเนิน
ไปโดยชอบ ผู้ปฏิบัติชอบ ผู้ทำโลกนี้และปรโลกให้แจ้งชัดด้วยปัญญาอัน
ยิ่งด้วยตนเอง แล้วสอนผู้อื่นให้รู้ตาม ย่อมไม่มีในโลกนี้ ดังนี้ 1 ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม 10 ประการนี้แล เป็นผู้ถูก
ทอดทิ้งไว้ในนรก เหมือนสิ่งของที่เขานำมาทอดทิ้งไว้.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม 10 ประการ เป็นผู้
ได้รับเชิญมาประดิษฐานไว้ในสวรรค์เหมือนสิ่งของที่เขานำมาประดิษฐาน
ไว้ ธรรน 10 ประการเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนใน
โลกนี้ ละการฆ่าสัตว์ เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ วางทัณฑะ วางศัสตรา
มีความละอาย มีความเอ็นดู มีความกรุณาหวังประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์
ทั้งปวงอยู่ 1 ละการลักทรัพย์ งดเว้นจากการลักทรัพย์ ไม่ถือเอาวัตถุเป็น
อุปกรณ์แก่ทรัพย์เครื่องปลื้มใจแห่งผู้อื่นของบุคคลอื่น ซึ่งอยู่ในบ้านหรือ
อยู่ในป่า ที่เจ้าของมิได้ให้ด้วยจิตเป็นขโมย 1 ละการประพฤติผิดในกาม
เว้นขาดจากการประพฤติผิดในกาม คือไม่ถึงความประพฤติล่วงในสตรีที่
มารดารักษา บิดารักษา พี่ชายน้องชายรักษา พี่สาวน้องสาวรักษา ญาติ
รักษา ธรรมรักษา มีสามี มีอาชญาโดยรอบ โดยที่สุดแม้สตรีที่บุรุษ
คล้องแล้วด้วยพวงมาลัย 1 ละการพูดเท็จ เว้นขาดจากการพูดเท็จ คือ
อยู่ในสภา ในบริษัท ในท่ามกลางญาติ ในท่ามกลางเสนา หรือใน
ท่ามกลางราชสกุล ถูกผู้อื่นนำไปเป็นพยานซักถามว่า มาเถิดบุรุษผู้เจริญ
ท่านรู้สิ่งใดจงพูดสิ่งนั้น บุคคลนั้นเมื่อไม่รู้ก็บอกว่าไม่รู้ หรือเมื่อรู้ก็บอก
ว่ารู้ เมื่อไม่เห็นก็บอกว่าไม่เห็น หรือเมื่อเห็นก็บอกว่าเห็น ไม่เป็นผู้
กล่าวเท็จทั้งรู้ เพราะเหตุแห่งตนบ้าง เพราะเหตุแห่งผู้อื่นบ้าง หรือเพราะ
เหตุเห็นแก่อามิสเล็กน้อยบ้าง ด้วยประการฉะนี้ 1 ละคำส่อเสียด เว้น
ขาดจากคำส่อเสียอด คือฟังข้างนี้แล้วไม่ไปบอกข้างโน้น เพื่อทำลายคน
หมู่นี้ หรือฟังจากข้างโน้นแล้วไม่มาบอกข้างนี้ เพื่อทำลายคนหมู่โน้น
สมานคนที่แตกร้าวกันบ้าง ส่งเสริมคนที่พร้อมเพรียงกันบ้าง ชอบคนผู้
พร้อมเพรียงกัน ยินดีในคนผู้พร้อมเพรียงกัน เพลิดเพลินในคนผู้พร้อม-

เพรียงกัน กล่าววาจาที่ทำให้คนพร้อมเพรียงกัน ด้วยประการฉะนี้ 1 ละ
คำหยาบ เว้นขาดจากคำหยาบ กล่าววาจาที่ไม่มีโทษ เพราะหู ชวนให้รัก
จับใจ เป็นของชาวเมือง คนส่วนมากรักใคร่ พอใจ 1 ละคำเพ้อเจ้อ
เว้นขาดจากคำเพ้อเจ้อ พูดถูกกาล พูดแต่คำที่เป็นจริง พูดอิงอรรถ
พูดอิงธรรม พูดอิงวินัย พูดแต่คำที่มีหลักฐาน มีที่อ้างอิง มีที่กำหนด
ประกอบด้วยประโยชน์โดยกาลอันควร 1 ไม่อยากได้ของผู้อื่น คือไม่อยาก
ได้วัตถุเป็นเครื่องอุปกรณ์แก่ทรัพย์เครื่องปลื้มใจแห่งผู้อื่นของบุคคลอื่นว่า
ไฉนหนอ วัตถุที่เป็นเครื่องอุปกรณ์เก่ทรัพย์เครื่องปลื้มใจแห่งผู้อื่นของ
บุคคลอื่นพึงเป็นของเรา ดังนี้ 1 เป็นผู้ไม่มีจิตคิดปองร้าย คือไม่มีความ
ดำริในใจอันชั่วร้ายว่า ขอสัตว์เหล่านี้จงเป็นผู้ไม่มีเวร ไม่มีความมุ่งร้ายกัน
ไม่มีทุกข์ มีสุขรักษาคนเถิด ดังนี้ 1 เป็นผู้มีความเห็นชอบ คือมีความ
เห็นไม่วิปริตว่า ทานที่บุคคลให้แล้วมีผล การเซ่นสรวงมีผล การบูชามี
ผล ผลวิบากแห่งกรรมที่บุคคลทำดีทำชั่วมีอยู่ โลกนี้มี โลกหน้ามี มารดา
มี บิดามี สัตว์ทั้งหลายผู้เป็นอุปปาติกะมี สมณพราหมณ์ผู้ดำเนินไปโดย
ชอบ ผู้ปฏิบัติชอบ ผู้ทำโลกนี้และโลกหน้าให้แจ้งชัดด้วยปัญญาอันยิ่ง
ด้วยตนเองแล้ว สอนผู้อื่นให้รู้ตามมีอยู่ ดังนี้ 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม 10 ประการนี้แล เป็นผู้ได้รับเชิญมาประดิษ-
ฐานไว้ในสวรรค์ เหมือนสิ่งของที่เขาเชิญมาประดิษฐานไว้.
จบยถาภตสูตรที่ 1

ปัญจมปัณณาสก์


ปฐมวรรคที่ 1


อรรถกถายถาภตสูตรที่ 1 เป็นต้น


สูตรที่ 1 เป็นต้น มีเนื้อความง่ายทั้งนั้น.
จบอรรถกถายถาภตสูตรที่ 1 เป็นต้น

2. มาตุคามสูตร1


ว่าด้วยมาตุคามประกอบด้วยธรรม 10 ประการ


เป็นผู้ถูกทอดทิ้งไว้ในนรกหรือได้รับเชิญมาไว้ในสวรรค์


[190] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มาตุคามผู้ประกอบด้วยธรรม 10
ประการ เป็นผู้ถูกทอดทิ้งไว้ในนรก เหมือนสิ่งของที่เขานำมาทอดทิ้งไว้
ธรรม 10 ประการเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มาตุคามบางคนใน
โลกนี้ เป็นผู้ฆ่าสัตว์ ฯลฯ เป็นผู้มีความเห็นผิด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
มาตุคามผู้ประกอบด้วยธรรม 10 ประการนี้แล เป็นผู้ถูกทอดทิ้งไว้ในนรก
เหมือนสิ่งของที่เขานำมาทอดทิ้งไว้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มาตุคามผู้ประกอบด้วยธรรม 10 ประการ
เป็นผู้ได้รับเชิญมาประดิษฐานไว้ในสวรรค์ เหมือนสิ่งของที่เขาเชิญมา
ประดิษฐานไว้ ธรรม 10 ประการเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
มาตุคามบางคนในโลกนี้ เป็นผู้เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ ฯลฯ เป็นผู้มี
ความเห็นชอบ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มาตุคามผู้ประกอบด้วยธรรม 10

1. สูตรที่ 2 ถึง 4 ไม่มีอรรถกถาอธิบาย.