เมนู

7. ตติยอธรรมสูตร


ว่าด้วยธรรมที่บุคคลควรทราบ


[162] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่ไม่เป็นธรรมและสิ่งที่เป็นธรรม
บุคคลควรทราบ สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์และสิ่งที่เป็นประโยชน์บุคคลก็
ควรทราบ ครั้นทราบสิ่งที่เป็นธรรมและสิ่งที่เป็นธรรม สิ่งที่ไม่
เป็นประโยชน์ และสิ่งที่เป็นประโยคโยชน์แล้ว พึงปฏิบัติตามสิ่งที่เป็นธรรม
ตามสิ่งที่เป็นประโยชน์ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่ไม่เป็นธรรมเป็นไฉน
และสิ่งที่เป็นธรรมเป็นไฉน สิ่งไม่เป็นประโยชน์เป็นไฉน และสิ่งที่
เป็นประโยชน์เป็นไฉน.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การฆ่าสัตว์เป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม เจตนา
เครื่องงดเว้นจากการฆ่าสัตว์เป็นสิ่งที่เป็นธรรม ส่วนอกุศลธรรมอันลามก
มิใช่น้อย ที่เกิดขึ้นเพราะการฆ่าสัตว์เป็นปัจจัย นี้เป็นสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์
ส่วนกุศลธรรมมิใช่น้อย ย่อมถึงความเจริญเต็มที่ เพราะเจตนาเครื่อง
งดเว้นจากการฆ่าสัตว์เป็นปัจจัย นี้เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การลักทรัพย์เป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม เจตนา
เครื่องงดเว้นจากการลักทรัพย์เป็นสิ่งที่เป็นธรรม...
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การประพฤติผิดในกามเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม
เจตนาเครื่องงดเว้นจากการประพฤติผิดในกามเป็นสิ่งที่เป็นธรรม ...
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การพูดเท็จเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม เจตนาเครื่อง
งดเว้นจากการพูดเท็จเป็นสิ่งที่เป็นธรรม...
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การพูดส่อเสียดเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม เจตนา
เครื่องงดเว้นจากการพูดส่อเสียดเป็นสิ่งที่เป็นธรรม...

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การพูดคำหยาบเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรม เจตนา
เครื่องงดเว้นจากการพูดคำหยาบเป็นสิ่งที่เป็นธรรม...
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การพูดเพ้อเจ้อเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม เจตนา
เครื่องงดเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อเป็นสิ่งที่เป็นธรรม...
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การอยากได้ของผู้อื่นเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม
การไม่อยากได้ของผู้อื่นเป็นสิ่งที่เป็นธรรม...
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความปองร้ายเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม ความไม่
ปองร้ายเป็นสิ่งที่เป็นธรรม...
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเห็นผิดเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม ความเห็น
ชอบเป็นสิ่งที่เป็นธรรม ส่วนอกุศลธรรมอันลามกมิใช่น้อย ที่เกิดขึ้น
เพราะความเห็นผิดเป็นปัจจัย นี้เป็นสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ส่วนกุศลธรรม
มิใช่น้อย ย่อมถึงความเจริญเต็มที่ เพราะความเห็นชอบเป็นปัจจัย นี้เป็น
สิ่งที่เป็นประโยชน์.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่ไม่เป็นธรรมและสิ่งที่เป็นธรรมบุคคลควร
ทราบ สิ่งที่เป็นประโยชน์และสิ่งที่เป็นประโยชน์บุคคลก็ควรทราบ
ครั้น ทราบสิ่งที่ไม่เป็นธรรมและสิ่งที่เป็นธรรม สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์และ
สิ่งที่เป็นประโยชน์แล้ว พึงปฏิบัติตามที่เป็นธรรม ตามสิ่งที่เป็นประ-
โยชน์ คำที่เรากล่าวดังนี้ เรากล่าวแล้วเพราะอาศัยข้อนี้.
จบตติยอธรรมสูตรที่ 7

8. ติวิธสูตร


ว่าด้วยความสิ้นเหตุของกรรมเพราะสิ้น ราคะ โทสะ โมหะ


[163] ดูภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวแม้ซึ่งการฆ่าสัตว์ว่ามี 3
อย่าง คือ มีโลภะเป็นเหตุบ้าง มีโทสะเป็นเหตุบ้าง มีโมหะเป็นเหตุบ้าง
เรากล่าวแม้ซึ่งการลักทรัพย์ว่ามี 3 อย่าง คือ มีโลภะเป็นเหตุบ้าง มีโทสะ
เป็นเหตุบ้าง มีโมหะเป็นเหตุบ้าง เรากล่าวแม้ซึ่งการประพฤติผิดในกาม
ว่ามี 3 อย่าง คือ มีโลภะเป็นเหตุบ้าง มีโทสะเป็นเหตุบ้าง มีโมหะเป็น
เหตุบ้าง เรากล่าวแม้ซึ่งการพูดเท็จว่ามี 3 อย่าง คือ มีโลภะเป็นเหตุ
บ้าง มีโทสะเป็นเหตุบ้าง มีโมหะเป็นเหตุบ้าง เรากล่าวแม้ซึ่งการ
พูดส่อเสียดวามี 3 อย่าง คือ มีโลภะเป็นเหตุบ้าง มีโทสะเป็นเหตุบ้าง
มีโมหะเป็นเหตุบ้าง เรากล่าวแม้ซึ่งการพูดคำหยาบว่ามี 3 อย่าง คือ มี
โลภะเป็นเหตุบ้าง มีโทสะเป็นเหตุบ้าง มีโมหะเป็นเหตุบ้าง เรากล่าว
แม้ซึ่งการพูดเพ้อเจ้อว่ามี 3 อย่าง คือ มีโลภะเป็นเหตุบ้าง มีโทสะ
เป็นเหตุบ้าง มีโมหะเป็นเหตุบ้าง เรากล่าวแม้ซึ่งการอยากได้ของผู้อื่น
ว่ามี 3 อย่าง คือ มีโลภะเป็นเหตุบ้าง มีโทสะเป็นเหตุบ้าง มีโมหะ
เป็นเหตุบ้าง เรากล่าวแม้ซึ่งความปองร้ายว่ามี 3 อย่าง คือ มีโลภะ
เป็นเหตุบ้าง มีโทสะเป็นเหตุบ้าง มีโมหะเป็นเหตุบ้าง เรากล่าว
แม้ซึ่งความเห็นผิดวามี 3 อย่าง คือ มีโลภะเป็นเหตุบ้าง มีโทสะเป็น
เหตุบ้าง มีโมหะเป็นเหตุบ้าง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โลภะเป็นแดนเกิด
แห่งเหตุของกรรม โทสะเป็นแดนเกิดแห่งเหตุของกรรม โมหะเป็นแดน
เกิดแห่งเหตุเหตุของกรรม ความสิ้นไปแห่งเหตุของกรรม ย่อมมีได้เพราะ
ความสิ้นไปแห่งโลภะ ความสิ้นไปแห่งเหตุของกรรม ย่อมมีได้เพราะ