เมนู

ถึงความทอดธุระในระหว่างคุณวิเศษเบื้องบน ด้วยการบรรลุคุณวิเศษ
เบื้องต่ำ ก็ความทอดธุระในระหว่างนี้ เป็นความเสื่อมในธรรมวินัยที่
พระตถาคตประกาศแล้ว ดูก่อนท่านมีอายุทั้งหลาย ภิกษุนั้นหนอไม่ละ
ธรรม 10 ประการนี้แล้ว จักถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์ในธรรมวินัยนี้
ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ภิกษุนั้นหนอละ
ธรรม 10 ประการนี้แล้ว จักถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์ ในธรรม
วินัยนี้ ข้อนี้ย่อมเป็นฐานะที่มีได้.
จบอัญญสูตรที่ 6

อรรถกถาอัญญสูตรที่ 6


อัญญสูตรที่ 6

พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า อธิมานิโก ได้แก่ ประกอบด้วยความสำคัญว่าบรรลุแล้ว
ในธรรมที่ยังไม่บรรลุ. บทว่า อธิมานสจฺโจ ได้แก่ สำคัญว่าบรรลุแล้ว
จึงกล่าวโดยสัจจะ.
จบอรรถกถาอัญญสูตรที่ 6

7. อธิกรณสูตร


ว่าด้วยภิกษุประกอบด้วยธรรม 10 ประการ ย่อมไม่เป็น


อันหนึ่งอันเดียวกัน


[87] ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงปรารภพระกาฬกภิกขุ
ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระดำรัสว่า ดูก่อนภิกษุ

ทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ก่ออธิกรณ์ ไม่กล่าวสรรเสริญ
การระงับอธิกรณ์ แม้ข้อที่ภิกษุเป็นผู้ก่ออธิกรณ์ ไม่กล่าวสรรเสริญการ
ระงับอธิกรณ์ ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความเป็นที่รัก ที่เคารพ ที่ยกย่อง ที่
เสมอกัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุไม่เป็นผู้ใคร่ในการศึกษา ไม่กล่าวสรร-
เสริญการสมาทานในการศึกษา แม้ข้อที่ภิกษุไม่เป็นผู้ใคร่ในการศึกษา
ไม่กล่าวสรรเสริญการสมาทานในการศึกษานี้ ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความ
เป็นที่รัก ที่เคารพ ที่ยกย่อง ที่เสมอกัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน .
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้มีความปรารถนาลามก ไม่กล่าวสรร-
เสริญการกำจัดความปรารถนา แม้ข้อที่ภิกษุเป็นผู้มีความปรารถนาลามก
ไม่กล่าวสรรเสริญการกำจัดความปรารถนานี้ ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความเป็น
ที่รัก ที่เคารพ ที่ยกย่อง ที่เสมอกัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน .
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้มักโกรธ ไม่กล่าวสรรเสริญการกำจัด
ความโกรธ แม้ข้อที่ภิกษุเป็นผู้มักโกรธ ไม่กล่าวสรรเสริญการกำจัดความ
โกรธนี้ ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความเป็นที่รัก ที่เคารพ ที่ยกย่อง ที่เสมอกัน
เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน .
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ลบหลู่ ไม่กล่าวสรรเสริญการกำจัด
ความลบหลู่ แม้ข้อที่ภิกษุเป็นผู้ลบหลู่ ไม่กล่าวสรรเสริญการกำจัดความ
ลบหลู่นี้ ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความเป็นที่รัก ที่เคารพ ที่ยกย่อง ที่เสมอกัน
เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้โอ้อวด ไม่กล่าวสรรเสริญการกำจัด
ความโอ้อวด แม้ข้อที่ภิกษุเป็นผู้โอ้อวด ไม่กล่าวสรรเสริญการกำจัดความ

โอ้อวดนี้ ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความเป็นที่รัก ที่เคารพ ที่ยกย่อง ที่เสมอกัน
เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้มีมายา ไม่กล่าวสรรเสริญการกำจัด
มายา แม้ข้อที่ภิกษุเป็นผู้มีมายา ไม่กล่าวสรรเสริญการกำจัดมายานี้ ย่อม
ไม่เป็นไปเพื่อความเป็นที่รัก ที่เคารพ ที่ยกย่อง ที่เสมอกัน เป็นอันหนึ่ง
อันเดียวกัน.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุไม่เป็นผู้เพ่งเล็งธรรมทั้งหลาย ไม่กล่าว
สรรเสริญการเพ่งเล็งธรรม แม้ข้อภิกษุไม่เป็นผู้เพ่งเล็งธรรมทั้งหลาย
ไม่กล่าวสรรเสริญการเพ่งเล็งธรรมนี้ ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความเป็นที่รัก
ที่เคารพ ที่ยกย่อง ที่เสมอกัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน .
อีกประการหนึ่ง ภิกษุไม่เป็นผู้หลีกออกเร้นอยู่ ไม่กล่าวสรรเสริญ
การหลีกออกเร้น แม้ข้อที่ภิกษุไม่เป็นผู้หลีกออกเร้นอยู่ ไม่กล่าวสรรเสริญ
การหลีกออกเร้นนี้ ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความเป็นที่รัก ที่เคารพ ที่ยกย่อง
ที่เสมอกัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุไม่เป็นผู้กระทำการปฏิสันถารเพื่อนพรหม-
จรรย์ทั้งหลาย ไม่กล่าวสรรเสริญการกระทำปฏิสันถาร แม้ข้อที่ภิกษุไม่
กระทำการปฏิสันถารเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย ไม่กล่าวสรรเสริญการ
กระทำปฏิสันถารนี้ ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความเป็นที่รัก ที่เคารพที่ยกย่อง
ที่เสมอกัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความปรารถนาพึงบังเกิดขึ้นแก่ภิกษุเห็นปาน
นี้อย่างนี้ว่า โอหนอ ขอเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายพึงสักการะ เคารพ
นับถือ บูชาเรา ดังนี้ แม้ถึงอย่างนั้น เพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายก็ไม่

สักการะ ไม่เคารพ ไม่นับถือ ไม่บูชาภิกษุนั้น ข้อนั้นเพราะเหตุไร
เพราะเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายผู้เป็นวิญญู ย่อมพิจารณาเห็นซึ่งอกุศล-
ธรรมทั้งหลายอันลามกที่ยังละไม่ได้ของเธอ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนความปรารถนาพึงบังเกิดขึ้นแก่
ม้าตัวโง่เขลาอย่างนี้ว่า โอหนอ ขอมนุษย์ทั้งหลายพึงตั้งเราไว้ในตำแหน่ง
ม้าอาชาไนยเถิด พึงให้เรากินอาหารสำหรับม้าอาชาไนยเถิด และพึงขัดสี
เราให้เหมือนม้าอาชาไนยเถิด ดังนี้ แม้ถึงอย่างนั้น มนุษย์ทั้งหลายก็ไม่ตั้ง
ม้านั้นไว้ในตำแหน่งม้าอาชาไนย ไม่ให้กินอาหารเหมือนม้าอาชาไนย ไม่
ขัดสีให้เหมือนม้าอาชาไนย ข้อนี้เพราะเหตุไร เพราะมนุษย์ทั้งหลายผู้เป็น
วิญญูพิจารณาเห็นความโอ้อวด ความโกง ความไม่ตรง ความคด ซึ่งยัง
ละไม่ได้ของม้านั้น แม้ฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความปรารถนาพึง
บังเกิดขึ้นแก่ภิกษุเห็นปานนั้นอย่างนี้ว่า โอหนอ ขอเพื่อนพรหมจรรย์
ทั้งหลายพึงสักการะ เคารพ นับถือ บูชาเรา ดังนี้ แม้ถึงอย่างนั้น
เพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายก็ไม่สักการะ ไม่เคารพ ไม่นับถือ ไม่บูชาภิกษุ
นั้น ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายผู้เป็นวิญญู
ย่อมพิจารณาเห็นอกุศลธรรมอันลามกซึ่งยังละไม่ได้ของภิกษุนั้น ฉันนั้น
เหมือนกันแล.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ส่วนภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ไม่ก่ออธิกรณ์
กล่าวสรรเสริญการระงับอธิกรณ์ แม้ข้อที่ภิกษุเป็นผู้ก่ออธิกรณ์ กล่าว
สรรเสริญการระงับอธิกรณ์นี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นที่รัก ที่เคารพ
ที่ยกย่อง ที่เสมอกัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.

อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ใคร่ในการศึกษา กล่าวสรรเสริญ
การสมาทานในการศึกษา แม้ข้อที่ภิกษุเป็นผู้ใคร่ในการศึกษา กล่าว
สรรเสริญการสมาทานในการศึกษานี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นที่รัก ที่
เคารพ ที่ยกย่อง ที่เสมอกัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้มีควานปรารถนาน้อย กล่าวสรรเสริญ
การกำจัดความปรารถนา แม้ข้อที่ภิกษุเป็นผู้มีความปรารถนาน้อย กล่าว
สรรเสริญการกำจัด ความปรารถนานี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นที่รัก ที่
เคารพ ที่ยกย่อง ที่เสมอกัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ไม่โกรธ กล่าวสรรเสริญการกำจัด
ความโกรธ แม้ข้อที่ภิกษุเป็นผู่ไม่โกรธ กล่าวสรรเสริญการกำจัดความ
โกรธนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นที่รัก ที่เคารพ ที่ยกย่อง ที่เสมอกัน
เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ไม่ลบหลู่ กล่าวสรรเสริญการกำจัด
ความลบหลู่ แม้ข้อที่ภิกษุเป็นผู้ไม่ลบหลู่ กล่าวสรรเสริญการกำจัดความ
ลบหลู่นี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นที่รัก ที่เคารพ ที่ยกย่อง ที่เสมอกัน
เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ไม่โอ้อวด กล่าวสรรเสริญการกำจัด
ความโอ้อวด แม้ข้อที่ภิกษุเป็นผู้ไม่โอ้อวด กล่าวสรรเสริญการกำจัดความ
โอ้อวดนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นที่รัก ที่เคารพ ที่ยกย่อง ที่เสมอกัน
เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ไม่มีมายา กล่าวสรรเสริญการกำจัด
มายา ข้อที่ภิกษุเป็นผู้ไม่มีมายา กล่าวสรรเสริญการกำจัดมายานี้ ย่อม

เป็นไปเพื่อความเป็นที่รัก ที่เคารพ ที่ยกย่อง ที่เสมอกัน เป็นอันหนึ่ง
อันเดียวกัน.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้เพ่งเล็งธรรมทั้งหลาย กล่าวสรรเสริญ
การเพ่งเล็งธรรมทั้งหลาย ข้อที่ภิกษุเป็นผู้เพ่งเล็งธรรมทั้งหลาย กล่าว
สรรเสริญการเพ่งเล็งธรรมทั้งหลายนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นที่รัก ที่
เคารพ ที่ยกย่อง ที่เสมอกัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้หลีกออกเร้นอยู่ กล่าวสรรเสริญการ
หลีกออกเร้น แม้ข้อที่ภิกษุเป็นผู้หลีกออกเร้นอยู่ กล่าวสรรเสริญการหลีก
ออกเร้นนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นที่รัก ที่เคารพที่ยกย่อง ที่เสมอกัน
เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้กระทำการปฏิสันถารเพื่อนพรหม-
จรรย์ทั้งหลาย กล่าวสรรเสริญการกระทำปฏิสันถาร แม้ข้อที่ภิกษุเป็นผู้
กระทำปฏิสันถารเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย กล่าวสรรเสริญการกระทำ
ปฏิสันถารนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นที่รัก ที่เคารพ ที่ยกย่อง ที่เสมอ
กัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถึงความปรารถนาไม่
พึงบังเกิดขึ้นแก่ภิกษุเห็นปานนี้อย่างนี้ว่า โอหนอ ขอเพื่อนพรหมจรรย์
ทั้งหลายพึงสักการะ เคารพ นับถือ บูชาเรา ดังนี้ ถึงอย่างนั้น เพื่อน
พรหมจรรย์ทั้งหลายก็สักการะ เคารพ นับถือ บูชาภิกษุนั้น ข้อนั้นเพราะ
เหตุไร เพราะเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายผู้เป็นวิญญู ย่อมพิจารณาเห็น
อกุศลธรรมทั้งหลายอันลามกที่ละได้แล้วของเธอ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนความปรารถนาไม่พึงบังเกิดขึ้น
แก่ม้าอาชาไนยตัวเจริญอย่างนี้ว่า โอหนอ มนุษย์ทั้งหลายพึงตั้งเราไว้ใน

ตำแหน่งม้าอาชาไนย และพึงขัดสีเราให้เหมือนขัดสีม้าอาชาไนยเถิด แม้
ถึงอย่างนั้น มนุษย์ทั้งหลายก็ย่อมตั้งม้านั้นไว้ในตำแหน่งม้าอาชาไนย ย่อม
ให้กินอาหารสำหรับม้าอาชาไนย ย่อมขัดสีให้เหมือนขัดสีม้าอาชาไนย ข้อ
นั้นเพราะเหตุไร เพราะมนุษย์ทั้งหลายผู้เป็นวิญญู ย่อมเห็นความโอ้อวด
ความโกง ความไม่ตรง ความคด ซึ่งละได้แล้วของม้านั้น แม้ฉันใด
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถึงความปรารถนาไม่พึงบังเกิดขึ้นแก่ภิกษุเห็นปานนี้
อย่างนี้ว่า โอหนอ ขอเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายพึงสักการะ เคารพ
นับถือ บูชาเรา ดังนี้ ถึงอย่างนั้น เพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายก็สักการะ
เคารพ นับถือ บูชาภิกษุนั้น ข้อนั้น เพราะเหตุไร เพราะเพื่อนพรหมจรรย์
ทั้งหลายผู้เป็นวิญญู ย่อมพิจารณาเห็นอกุศลธรรมอันลามกที่ละได้แล้วของ
เธอ ฉันนั้นเหมือนกันแล.
จบอธิกรณสูตรที่ 7

อรรถกถาอธิกรณสูตรที่ 7


อธิกรณสูตรที่ 7

พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า อธิกรณิโก โหติ ได้แก่ เป็นผู้กระทำอธิกรณ์. บทว่า
น ปิยตาย ได้แก่ ไม่เป็นไปเพื่อเป็นผู้น่ารัก. บทว่า น ครุตาย ได้แก่
ไม่เป็นไปเพื่อความน่าเคารพ. บทว่า น สามญฺญาย ได้แก่ ไม่เป็นไป
เพื่อสมานธรรม. บทว่า น เอกีภาวาย ได้แก่ ไม่เป็นไปเพื่อไม่มีช่อง
ว่าง. บทว่า ธมฺมานํ น นิสามกชาติโย ได้แก่ ไม่เป็นผู้พิจารณาโลกุตร-
ธรรม 9 เป็นสภาพ ไม่เป็นผู้ทรงจำเป็นสภาพ. บทว่า น ปฏิสลฺลาโน