เมนู

มีสมาธิเป็นประมุข ท่านผู้เจริญ เมื่อเราถามว่า ดูก่อนท่านสมิทธิ
ก็วิตกอันเป็นความดำรินั้น มีอะไรเป็นใหญ่ ท่านตอบว่า มีสติ
เป็นใหญ่ ท่านผู้เจริญ เมื่อเราถามว่า ดูก่อนท่านสมิทธิ วิตก
อันเป็นความดำรินั้น มีอะไรเป็นยิ่ง ท่านตอบว่า มีปัญญาเป็นยิ่ง
ท่านผู้เจริญ เมื่อเราถามว่า ดูก่อนท่านสมิทธิ ก็วิตกอันเป็นความ
ดำรินั้น มีอะไรเป็นแก่น ท่านตอบว่า มีวิมุตติเป็นแก่น ท่านผู้เจริญ
เมื่อเราถามว่า ดูก่อนท่านสมิทธิ ก็วิตกอันเป็นความดำรินั้น มี
อะไรเป็นที่หยั่งลง ท่านตอบว่า มีอมตะเป็นที่หยั่งลง ท่านผู้เจริญ
ดูก่อนท่านพระสมิทธิ ดีละ ดีละ เป็นการดีแล้ว ท่านอันเราถาม
ปัญหาก็แก้ได้ แต่ท่านอย่าทะนงตน ด้วยการแก้ปัญหานั้น.
จบ สมิทธิสูตรที่ 4

อรรถกถาสมิทธิสูตร


สมิทธิสูตรที่ 4

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า สมิทฺธิ ได้แก่ พระเถระมีพระเถระผู้เป็นสัทธิวิหาริก
ได้ชื่อว่าอย่างนี้ เพราะความสำเร็จของอัตภาพ. บทว่า กิมารมฺมณา
ได้แก่ มีอะไรเป็นปัจจัย. บทว่า สงฺกมฺปวิตกฺกา ได้แก่ วิตกเป็น
ความดำริ. บทว่า นามรูปารมฺมณา ได้แก่ มีนามรูปเป็นปัจจัย.
ท่านแสดงว่า ด้วยบทนี้ อรูปขันธิ 4 รูปและอุปาทายรูป เป็น
ปัจจัยของวิตกทั้งหลาย. บทว่า กวฺนานตฺตํ คจฺฉนฺติ ความว่า