เมนู

อรรถกถาสุตวาสูตร


สุตวาสูตรที่ 7

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า ปญฺจ ฐานานิ อชฺฌาจริตุํ ได้แก่ ภิกษุไม่ควรล่วงเหตุ 5.
บทว่า ปาณํ ได้แก่ โดยที่สุดมดดำมดแดง. บทว่า อทินฺนํ ได้แก่
ของผู้อื่นโดยที่สุดแม้เส้นหญ้า. บทว่า เถยฺยสงฺขาตํ ได้แก่ แม้มี
จิตขโมย. บทว่า สนฺนิธิการกํ กาเม ปริภุญฺชิตุํ ได้แก่ ไม่ควรทำการ
สั่งสอนคือ เว้นบริโภควัตถุกามและกิเลสกาม. ข้อนั้น ท่านกล่าว
หมายเอากามคุณซึ่งเป็นอกัปปิยะ (ไม่ควร). บทว่า พุทฺธํ ปจฺจกฺขาตุํ
ได้แก่ เพื่อห้ามอย่างนี้ว่า คนนี้มิใช่เป็นพุทธะดังนี้. แม้ในธรรม
เป็นต้นก็มีนัยนี้เหมือนกัน. ข้อนั้นมาแล้วในอรรถกถาก่อนอย่างนี้
ส่วนในสูตรนี้กล่าวถึงความไม่ลำเอียง.
จบ อรรถกถาสุตวาสูตรที่ 7

8. สัชฌสูตร


ว่าด้วยฐานะที่พระอรหันต์ไม่ล่วงละเมิด


[212] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ ภูเขา
คิชฌกูฏใกล้พระนครราชคฤห์ ครั้งนั้นแล สัชฌปริพาชกเข้าไปเฝ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาคเจ้า
ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่สมควร
ส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ สมัยหนึ่ง ข้าพระองค์และพระผู้มีพระภาคเจ้า
อยู่เมืองคิริพชะ ใกล้กรุงราชคฤห์นี้แหละ ณ ที่นั้นแล ข้าพระองค์
ได้สดับรับฟังเฉพาะพระพักตร์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ดูก่อน
สัชฌะ ภิกษุผู้เป็นพระอรหันต์ขีณาสพ อยู่จบพรหมจรรย์ ทำกิจ
ที่ควรทำเสร็จแล้ว ปลงภาระแล้ว มีประโยชน์แห่งตนอันบรรลุแล้ว
โดยลำดับ มีกิเลสเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพสิ้นรอบแล้ว หลุดพ้น
แล้วเพราะรู้โดยชอบ ภิกษุนั้นเป็นผู้ไม่ควรเพื่อประพฤติล่วงฐานะ
5 ประการ คือ ภิกษุผู้ขีณาสพไม่ควรแกล้งฆ่าสัตว์ 1 ไม่ควรถือ
เอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ให้อันเป็นส่วนแห่งความเป็นขโมย 1 ไม่
ควรเสพเมถุนธรรม 1 ไม่ควรกล่าวเท็จทั้งรู้ 1 ไม่ควรทำการ
สั่งสมบริโภคกามคุณเหมือนเป็นคฤหัสถ์ในกาลก่อน 1 ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ คำนี้ข้าพระองค์ฟังมาดีแล้ว รับมาดีแล้ว ใส่ใจไว้ดีแล้ว
ทรงจำไว้ดีแล้วแลหรือ.