เมนู

ไพบูลย์ ชนเหล่าใดย่อมอนุโมทนา หรือ
ช่วยเหลือในทักขิณาทานนั้น ทักขิณาทาน
นั้นย่อมไม่มีผลบกพร่อง เพราะการอนุ-
โมทนาหรือการช่วยเหลือนั้น แม้พวกที่
อนุโมทนาหรือช่วยเหลือ ย่อมเป็นผู้มีส่วน
แห่งบุญ เพราะฉะนั้น ผู้มีจิตไม่ท้อถอย
จึงควรให้ทานในเขตที่มีผลมาก บุญทั้ง-
หลายย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายใน
ปรโลก.

จบกาลทานสูตรที่ 6

อรรถกถากาลทานสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในกาลทานสูตรที่ 6 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า กาลทานานิ คือ ทานที่ควร ทานที่มาถึงแล้ว อธิบายว่า
ทานอันสมควร. บทว่า นวสสฺสานิ คือ ข้าวกล้าดีเลิศ. บทว่า นวผลานิ
ได้แก่ ผลไม้ดีเลิศที่ออกคราวแรกจากสวน. บทว่า ปฐมํ สีลวนฺเตสุ
ปติฏฺฐาเปติ
ความว่า เขาถวายแก่ท่านผู้มีศีลก่อนแล้ว ตนก็บริโภคภายหลัง.
บทว่า วทญฺญู คือ เป็นผู้รู้ภาษิต. บทว่า กาเลน ทินฺนํ ได้แก่ ทาน
ที่เขาให้อันสมควรที่มาถึงเข้า. บทว่า อนุโมทนฺติ ได้แก่ ชนที่ยืนอนุโมทนา
อยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. บทว่า เวยฺยาวจฺจํ ได้แก่ ทำการที่เป็นงาน
ขวนขวายทางกาย. บทว่า อปฺปฏิวาสนจิตฺโต ได้แก่ เป็นผู้มีจิตไม่เบื่อหน่าย.
บทว่า ยตฺถทินฺนํ มหปฺผลํ ได้แก่ พึงให้ในที่ ๆ ทานที่ให้แล้วมีผลมาก.
จบอรรถกถากาลทานสูตรที่ 6

7. โภชนทานสูตร


ว่าด้วยทายกผู้ให้โภชนะชื่อว่าให้ฐานะ 5 อย่างแก่ปฏิคาหก


[37] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทายกผู้ให้โภชนะเป็นทาน ชื่อว่าให้ฐานะ
5 อย่างแก่ปฏิคาหก 5 อย่างเป็นไฉน คือ ให้อายุ 1 ให้วรรณะ 1 ให้สุข 1
ให้กำลัง 1 ให้ปฏิภาณ 1 ครั้นให้อายุแล้วย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งอายุทั้งที่เป็น
ทิพย์ ทั้งที่เป็นมนุษย์ ครั้นให้วรรณะแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งวรรณะ
ทั้งที่เป็นทิพย์ ทั้งที่เป็นมนุษย์ ครั้นให้สุขแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งสุข
ทั้งที่เป็นทิพย์ทั้งที่เป็นมนุษย์ ครั้นให้กำลังแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งกำลัง
ทั้งที่เป็นทิพย์ทั้งที่เป็นมนุษย์ ครั้นให้ปฏิภาณแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่ง
ปฏิภาณทั้งที่เป็นทิพย์ทั้งที่เป็นมนุษย์ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทายกผู้ให้โภชนะ
เป็นทานชื่อว่าให้ฐานะ 5 อย่างนี้แล.
ปราชญ์ผู้มีปัญญา ให้อายุ ย่อมได้
อายุ ให้กำลัง ย่อมได้กำลัง ให้วรรณะ
ย่อมได้วรรณะ ให้ปฏิภาณย่อมได้ปฏิภาณ
ให้สุขย่อมได้สุข ครั้นให้อายุ กำลัง
วรรณะ สุข และปฏิภาณแล้วจะเกิดใน
ที่ใด ๆ ย่อมเป็นผู้มีอายุยืน มียศ.

จบโภชนทานสูตรที่ 7