เมนู

5. อนัตตสูตร


ว่าด้วยฐานะที่มีได้และมีไม่ได้


[371] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้พิจารณาเห็นธรรมไร ๆ โดย
ความเป็นอัตตา ฯลฯ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้พิจารณาเห็นธรรมทั้งปวงโดยความเป็น
อนัตตา ฯลฯ
จบอนัตตสูตรที่ 5

6. นิพพานสูตร


ว่าด้วยฐานะที่มีได้และมีไม่ได้


[372] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้พิจารณาเห็นนิพพานโดยความ
เป็นทุกข์ จักเป็นผู้ประกอบด้วยขันติที่สมควร ข้อนั้นย่อมไม่เป็นฐานะที่จะ
มีได้ เธอไม่ประกอบด้วยขันติที่สมควรแล้ว จักก้าวลงสู่ความเป็นชอบและ
ความแน่นอน ข้อนั้นย่อมไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ เมื่อไม่ก้าวลงสู่ความเป็นชอบ
และความแน่นอน จักกระทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล
หรือ อรหัตผล ข้อนั้นย่อมไม่เป็นฐานะที่จะมีได้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้พิจารณาเห็นนิพพานโดยความเป็นสุข จัก
เป็นผู้ประกอบด้วยขันติที่สมควร ข้อนั้นย่อมเป็นฐานะที่จะมีได้ เธอประกอบ
ด้วยขันติที่สมควรแล้ว จักก้าวลงสู่ความเป็นชอบและความแน่นอน ข้อนั้น

ย่อมเป็นฐานะที่จะมีได้ เมื่อก้าวลงสู่ความเป็นชอบและความแน่นอน จักกระทำ
ให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล หรือ อรหัตผล ข้อนั้น
ย่อมเป็นฐานะที่จะมีได้.
จบนิพพานสูตรที่ 6

7. ปฐมอโนทิสสูตรที่ 1


ว่าด้วยอานิสงส์ทำให้เกิดอนิจจสัญญา 6 ประการ


[373] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้พิจารณาเห็นอานิสงส์ 6 ประการ
เป็นผู้สามารถเพื่อไม่กระทำเขตจำกัดในสังขารทั้งปวง แล้วยังอนิจจสัญญาให้
ปรากฏ อานิสงส์ 6 ประการเป็นไฉน ? คือ ภิกษุพิจารณาเห็นอยู่ว่า สังขาร
ทั้งปวงจักปรากฏโดยความเป็นของไม่มั่นคง 1 ใจของเราจักไม่ยินดีในโลก
ทั้งปวง 1 ใจของเราจักออกจากโลกทั้งปวง 1 ใจของเราจักน้อมไปสู่นิพพาน 1
สังโยชน์ทั้งหลายของเราจักถึงการละได้ 1 และเราจักเป็นผู้ประกอบด้วยสามัญ-
ธรรม ชั้นเยี่ยม 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้พิจารณาเห็นอานิสงส์ 6
ประการนี้แล เป็นผู้สามารถเพื่อไม่กระทำเขตจำกัดในสังขารทั้งปวง แล้วยัง
อนิจจสัญญาให้ปรากฏ.
จบปฐมอโนทิสสูตรที่ 7