เมนู

ฐานะที่จะมีได้ ไม่ประกอบด้วยขันติที่สมควรแล้ว จักก้าวลงสู่ความเป็นชอบ
และความแน่นอน ข้อนั้นย่อมไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ เมื่อไม่ก้าวลงสู่ความ
เป็นชอบ และความแน่นอน จักกระทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล สกทาคามิผล
อนาคามิผล หรืออรหัตผล ข้อนั้นย่อมไม่เป็นฐานะที่จะมีได้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้พิจารณาเห็นสังขารทั้งปวงโดยความเป็น
ของให้เที่ยง จักเป็นผู้ประกอบด้วยขันติที่สมควร ข้อนั้นย่อมเป็นฐานะที่จะมีได้
เธอประกอบด้วยขันติที่สมควรแล้ว จักก้าวลงสู่ความเป็นชอบและความแน่นอน
ข้อนั้นย่อมเป็นฐานะที่จะมีได้ เมื่อก้าวลงสู่ความเป็นชอบและความแน่นอน
จักกระทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล หรือ อรหัตผล
ข้อนั้นย่อมเป็นฐานะที่จะมีได้.
จบอนิจจสูตรที่ 3

4. ทุกขสูตร


ว่าด้วยฐานะที่มีได้และไม่ได้


[370] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้พิจารณาเห็นสังขารไร ๆ โดย
ความเป็นสุข ฯลฯ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้พิจารณาเห็นสังขารทั้งปวงโดยความเป็น
ทุกข์ ฯลฯ
จบทุกขสูตรที่ 4

5. อนัตตสูตร


ว่าด้วยฐานะที่มีได้และมีไม่ได้


[371] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้พิจารณาเห็นธรรมไร ๆ โดย
ความเป็นอัตตา ฯลฯ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้พิจารณาเห็นธรรมทั้งปวงโดยความเป็น
อนัตตา ฯลฯ
จบอนัตตสูตรที่ 5

6. นิพพานสูตร


ว่าด้วยฐานะที่มีได้และมีไม่ได้


[372] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้พิจารณาเห็นนิพพานโดยความ
เป็นทุกข์ จักเป็นผู้ประกอบด้วยขันติที่สมควร ข้อนั้นย่อมไม่เป็นฐานะที่จะ
มีได้ เธอไม่ประกอบด้วยขันติที่สมควรแล้ว จักก้าวลงสู่ความเป็นชอบและ
ความแน่นอน ข้อนั้นย่อมไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ เมื่อไม่ก้าวลงสู่ความเป็นชอบ
และความแน่นอน จักกระทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล
หรือ อรหัตผล ข้อนั้นย่อมไม่เป็นฐานะที่จะมีได้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้พิจารณาเห็นนิพพานโดยความเป็นสุข จัก
เป็นผู้ประกอบด้วยขันติที่สมควร ข้อนั้นย่อมเป็นฐานะที่จะมีได้ เธอประกอบ
ด้วยขันติที่สมควรแล้ว จักก้าวลงสู่ความเป็นชอบและความแน่นอน ข้อนั้น