เมนู

กุศลธรรม 1 ไม่มีแม้หิริในกุศลธรรม 1 ไม่มีแม้โอตตัปปะใน
กุศลธรรม 1 ไม่มีแม้ความเพียรในกุศลธรรม ไม่มีแม่ปัญญาใน
กุศลธรรม 1
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุหรือภิกษุณีบางรูป ลาสิกขาสึก
ออกมาเป็นคฤหัสถ์ เธอย่อมถึงฐานะอันน่าติเตียน ซึ่งถูกกล่าวหาอันชอบแก่
เหตุ 5 ประการนี้แลในปัจจุบัน.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุหรือภิกษุณีบางรูป แม้มีทุกข์ โทมนัส
มีหน้านองด้วยน้ำตา ร้องไห้อยู่ ย่อมประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์ บริบูรณ์
เธอย่อมถึงฐานะอันน่าสรรเสริญที่ชอบแก่เหตุ 5 ประการในปัจจุบัน 5 ประการ
เป็นไฉน คือ เธอมีศรัทธาในกุศลธรรม 1 มีหิริในกุศลธรรม 1 มี
โอตตัปปะในกุศลธรรม 1 มีความเพียรในกุศลธรรม 1 มีปัญญา
ในกุศลธรรม 1
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุหรือภิกษุณีบางรูป แม้มีทุกข์
โทมนัส มีหน้านองด้วยน้ำตา ร้องไห้อยู่ ย่อมประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์
บริบูรณ์ เธอย่อมถึงฐานะอันน่าสรรเสริญที่ชอบแก่เหตุ 5 ประการนี้แล ใน
ปัจจุบัน.
จบสิกขาสูตรที่ 5

6. สมาปัตติสูตร


ว่าด้วยธรรมที่เป็นปฏิปักษ์กัน


[6] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การถึงอกุศลย่อมไม่มี ตลอดเวลาที่ศรัทธา
ในกุศลธรรมยังตั้งมั่นอยู่ แต่เมื่อใด ศรัทธาเสื่อมหายไป อัสสัทธิยะ (ความ
ไม่เชื่อ) ย่อมกลุ้มรุม เมื่อนั้น การถึงอกุศลย่อมมี การถึงอกุศลย่อมไม่มี

ตลอดเวลาที่หิริในกุศลธรรมยังตั้งมั่นอยู่ แต่เมื่อใด หิริเสื่อมหายไป อหิริกะ
(ความไม่ละอาย) ย่อมกลุ้มรุม เมื่อนั้น การถึงอกุศลย่อมมี การถึงอกุศล
ย่อมไม่มีตลอดเวลาที่โอตตัปปะในกุศลธรรมยังตั้งมั่นอยู่ แต่เมื่อใด โอตตัปปะ
เสื่อมหายไป อโนตตัปปะ (ความไม่สะดุ้งกลัว) ย่อมกลุ้มรุม เมื่อนั้น การ
ถึงอกุศลย่อมมี การถึงอกุศลย่อมไม่มีตลอดเวลาที่วิริยะในกุศลธรรมยังตั้งมั่น
อยู่ แต่เมื่อใด วิริยะเสื่อมหายไป โกสัชชะ (ความเกียจคร้าน) ย่อมกลุ้มรุม
เมื่อนั้น การถึงอกุศลย่อมมี การถึงอกุศลย่อมไม่มี ตลอดเวลาที่ปัญญายังตั้ง
มั่นอยู่ แต่เมื่อใด ปัญญาเสื่อมหายไป ปัญญาทรามย่อมกลุ้มรุม เมื่อนั้น
การถึงอกุศลย่อมมี.
จบสมาปัตติสูตรที่ 6

อรรถกถาสมาปัตติสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในสมาปัตติสูตรที่ 6 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อกุสลสฺส สมาปตฺติ ได้แก่ ความพรั่งพร้อมด้วยความ
เข้าถึงอกุศลธรรม. บทว่า ปริยุทฺธาย ติฏฺฐติ ได้แก่ ครอบงำอยู่.
จบอรรถกถาสมาปัตติสูตรที่ 6