เมนู

เทวตาวรรควรรณนาที่ 2


อรรถกถาอนาคามิสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในอนาคามิสูตรที่ 1 แห่งเทวตาวรรคที่ 2 ดัง
ต่อไปนี้ :-
บทว่า อสทฺธิยํ ได้แก่ ความเป็นผู้ไม่มีศรัทธา. บทว่า ทุปฺปญฺญตฺตํ
ได้แก่ ความเป็นผู้ไม่มีปัญญา.
จบอรรถกถาอนาคามิสูตรที่ 1

2. อรหัตตสูตร


ว่าด้วยผู้ควรบรรลุและไม่ควรบรรลุอรหัตผล


[337] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุยังละธรรม 6 ประการไม่ได้แล้ว
ย่อมเป็นผู้ไม่ควรเพื่อทำให้แจ้งซึ่งอรหัต ธรรม 6 ประการเป็นไฉน ? คือ
ถีนะ 1 มิทธะ 1 อุทธัจจะ 1 กุกกุจจะ 1 ความไม่มีศรัทธา 1 ความ
ประมาท 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุยังละธรรม 6 ประการนี้ไม่ได้แล้ว
ย่อมเป็นผู้ไม่ควรเพื่อทำให้แจ้งซึ่งอรหัต.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุละธรรม 6 ประการได้แล้ว ย่อมเป็นผู้ควร
เพื่อทำให้แจ้งซึ่งอรหัต ธรรม 6 ประการเป็นไฉน ? คือ ถีนะ 1 มิทธะ 1
อุทธัจจะ 1 กุกกุจจะ 1 ความไม่มีศรัทธา 1 ความประมาท 1 ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ภิกษุละธรรม 6 ประการนี้ได้แล้ว ย่อมเป็นผู้ควรเพื่อทำให้แจ้งซึ่ง
อรหัต.
จบอรหัตตสูตร 2
* อรรถกถาเป็นวรรคที่ 7

อรรถกถาอรหัตตสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในอรหัตตสูตรที่ 2 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ปมาทํ ได้แก่ การอยู่อย่างปราศจากสติ.
จบอรรถกถาอรหัตตสูตรที่ 2

3. มิตตสูตร


ว่าด้วยคุณและโทษของการมีมิตร


[338] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้มีมิตรลามก มีสหายลามก มี
เพื่อนฝูงสามก เสพ คบ เข้าไปนั่งใกล้มิตรลามกและประพฤติตามมิตรลามก
เหล่านั้นอยู่ จักบำเพ็ญธรรม คือ อภิสมาจาริกวัตรให้บริบูรณ์ ข้อนี้ไม่เป็น
ฐานะที่จะมีได้ ภิกษุไม่บำเพ็ญธรรม คือ อภิสมาจาริกวัตรให้บริบูรณ์แล้ว
จักบำเพ็ญเสขธรรมให้บริบูรณ์ ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ไม่บำเพ็ญเสขธรรม
ให้บริบูรณ์แล้ว จักบำเพ็ญศีลทั้งหลายให้บริบูรณ์ ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
ไม่บำเพ็ญศีลทั้งหลายให้บริบูรณ์แล้ว จักละกามราคะ รูปราคะ หรืออรูปราคะ
ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนฝูงดี เสพ
คบ เข้าไปนั่งใกล้มิตรดี และประพฤติตามมิตรเหล่านั้นอยู่ จักบำเพ็ญธรรม
คือ อภิสมาจาริกวัตรให้บริบูรณ์ ข้อนี้ย่อมเป็นฐานะที่จะมีได้ บำเพ็ญธรรม
คือ อภิสมาจาริกวัตรให้บริบูรณ์ จักบำเพ็ญเสขธรรมให้บริบูรณ์ ข้อนี้ย่อม