เมนู

ธรรมที่ควรกำหนดรู้ เมื่อรู้ยิ่งธรรมที่ควรรู้ยิ่ง กำหนดรู้ธรรมที่ควรกำหนดรู้
ย่อมเป็นผู้ทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ในปัจจุบันเทียว.
จบปรายสูตรที่ 7

อรรถกถาปรายนสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในอรรถกถาปรายนสูตรที่ 7 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ปารายเน เมตฺเตยฺยปญฺเห ได้แก่ ในปัญหาของเมตเตยย-
มาณพที่มาในปารายนวรรค. บทว่า อุภนฺเต วิทิตฺวาน ได้แก่ ทราบที่สุด
2 อย่าง คือ ส่วน 2 ส่วน. บทว่า มชฺเฌ มนฺตา น ลิปฺปติ ความว่า
ปัญญาเรียกว่า มันตา (บุคคลใด) ทราบที่สุดทั้งสองด้วยปัญญาที่เรียกว่า มันตา
นั้นแล้วไม่ติดอยู่ในท่ามกลาง คือ ไม่ติดอยู่ในที่ตรงกลาง. บทว่า สิพฺพนิ
มจฺจคา
ความว่า (บุคคลนั้น) ผ่านพ้นตัณหาที่เรียกว่า สิพพนี (เครื่อง
ร้อยรัด ) ได้แล้ว.
บทว่า ผสฺโส ความว่า เพราะบังเกิดด้วยอำนาจผัสสะ อัตภาพนี้
จึงมี. บทว่า เอโก อนฺโต ความว่า ผัสสะนี้เป็นส่วนหนึ่ง. บทว่า
ผสฺสสมุทโย มีรูปวิเคราะห์ว่า ผัสสะเป็นเหตุเกิดของอัตภาพนั้น เหตุนั้น
อัตภาพนั้นจึงชื่อว่า มีผัสสะเป็นเหตุเกิด. อัตภาพในอนาคตจักบังเกิดได้
เพราะมีผัสสะ คือกรรมที่ทำไว้ในอัตภาพนี้เป็นปัจจัย. บทว่า ทุติโย อนฺโต
ได้แก่ ส่วนที่ 2. บทว่า ผสฺสนิโรโธ ได้แก่ นิพพาน. บทว่า มชฺเฌ
ความว่า นิพพานชื่อว่า เป็นท่ามกลาง เพราะ หมายความว่าแยกธรรม
(ผัสสะและเหตุเกิดของผัสสะ) ออกเป็น 2 ฝ่ายโดย ตัดตัณหาเครื่องร้อยรัด