เมนู

บุรุษชื่ออิสิทัตตะก็หามิได้ อนึ่ง บุรุษชื่ออิสิทัตตะเป็นผู้ประกอบด้วยปัญญา
เช่นใด บุรุษชื่อปุราณะก็ได้เป็นผู้ประกอบด้วยปัญญาเช่นนั้น บุรุษชื่ออิสิทัตตะ
ได้รู้แม้คติของบุรุษชื่อปุราณะก็หามิได้ ดูก่อนอานนท์ คนทั้ง 2 เลวกว่ากัน
ด้วยองคคุณคนละอย่างด้วยประการฉะนี้.
จบมิคสาลาสูตรที่ 2

อรรถกถามิคสาลาสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในมิคสาลาสูตรที่ 2 ดังต่อไป่นี้ :-
บทว่า กถํ กถํ นาม ความว่า ด้วยเหตุอะไร ๆ. บทว่า
อญฺเญยฺโย แปลว่า (ธรรม) อันบุคคลพึงรู้ให้ทั่วถึง. บทว่า ยตฺร หิ นาม
คือ ในธรรมชื่อใด. บทว่า สมสมคติกา ความว่า พรหมจารีบุคคล
และอพรหมจารีบุคคล (ผู้มิใช่เป็นพรหมจารี) อันชนทั้งหลายรู้แล้วว่า จักเป็น
ผู้มีคติเสมอกันโดยภาวะที่เสมอกันนั่นเอง. บทว่า สกทาคามี สตฺโต ตุสิตํ
กายํ อุปปนฺโน
ความว่า บังเกิดเป็นสกทาคามีบุคคลในภพดุสิตนั่นเอง.
บทว่า กถํ กถํ นาม ความว่า (มิคสาลาอุบาสิกาถามว่า พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงพรหมจารีบุคคลและอพรหมจารีบุคคลไว้) ด้วยเหตุ
อะไรหนอแล คือ พระองค์ทรงรู้จักแล้วจึงแสดงไว้หรือว่าไม่ทรงรู้จัก พระเถระ
(อานนท์) ไม่ทราบเหตุจึงกล่าวว่า ดูก่อนน้องหญิง ก็แลข้อนี้ พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าทรงพยากรณ์ไว้อย่างนี้.
บทว่า อมฺพกา อมฺพกสญฺญา ความว่า (มิคสาลาอุบาสิกา)
เป็นหญิง ยังประกอบด้วยความสำคัญอย่างหญิงอยู่นั่นเอง.