เมนู

อรรถกถากัจจานสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในกัจจานสูตรที่ 6 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า สมฺพาเธ ความว่า ในที่ ๆ แออัดไปด้วยกามคุณทั้ง 5.
อนุสติ 6 ท่านเรียกว่า โอกาส ในบทว่า โอกาสาธิคโม นี้. การบรรลุ
เหตุแห่งอนุสติ 6 เหล่านั้น. บทว่า วิสุทฺธิยา ความว่า เพื่อประโยชน์
แก่ความบริสุทธิ์. บทว่า โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ความว่า เพื่อ
ประโยชน์แก่การก้าวล่วง ซึ่งความเศร้าโศก และความรำพัน. บทว่า
อตฺถงฺคมาย ความว่า เพื่อถึงความดับสูญ. บทว่า ญายสฺส อธิคมาย
ความว่า เพื่อประโยชน์แก่การบรรลุมรรค พร้อมด้วยวิปัสสนาเบื้องต้น.
บทว่า นิพฺพานาย สจฺฉิกิริยาย ความว่า เพื่อประโยชน์แก่การทำให้
ประจักษ์ ซึ่งพระปรินิพพาน อันหาปัจจัยมิได้.
บทว่า สพฺพโส ได้แก่ โดยอาการทั้งปวง. บทว่า อากาสสเมน
ความว่า เช่นกับด้วยอากาศ เพราะหมายความว่า ไม่ติดขัด และเพราะ
หมายความว่า ไม่มีความกังวล.
บทว่า วิปุเลน ความว่า ไม่ใช่นิดหน่อย. บทว่า มหคฺคเตน
ความว่า ถึงความเป็นของใหญ่ อีกอย่างหนึ่ง อธิบายว่า ถึง คือ ดำเนิน
ไปกับด้วยพระอริยสาวกผู้ใหญ่.
บทว่า อปฺปมาเณน ความว่า ชื่อว่า หาประมาณมิได้ เพราะว่า
จิตนั้นมีการแผ่ไปหาประมาณมิได้. บทว่า อเวเรน ความว่า เว้นจากอกุศล-
ธรรมที่เป็นเวร และบุคคลผู้เป็นเวร. บทว่า อพฺยาปชฺเฌน ความว่า
เว้นจากทุกข์อันเกิดจากความโกรธ.

คำทั้งหมดนี้ พระมหากัจจานะ กล่าวหมายถึง จิตที่มีพุทธานุสติ
เป็นอารมณ์เท่านั้น แม้ข้อความต่อไป ก็มีนัยนี้เหมือนกัน. บทว่า วิสุทฺธิธมฺมา
ได้แก่ มีความบริสุทธิ์เป็นสภาพ. แม้ในพระสูตรนี้ พระมหากัจจานะก็กล่าว
เหตุแห่งอนุสติ 6 ไว้คละกันไป เหมือนกัน ฉะนี้แล.
จบอรรถกถากัจจานสูตรที่ 6

7. ปฐมสมยสูตร


ว่าด้วยเวลาที่ควรพบผู้เจริญภาวนา 6


[298] ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่
ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้ทูลถาม
พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สมัยที่ควรเพื่อเข้าไปพบภิกษุ
ผู้เจริญภาวนาทางใจ มีเท่าไรหนอแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
สมัยที่ควรเพื่อเข้าไปพบภิกษุผู้เจริญภาวนาทางใจ มี 6 ประการนี้ 6 ประการ
เป็นไฉน ?
ดูก่อนภิกษุ สมัยใด ภิกษุในธรรมวินัยนี้ มีใจถูกกามราคะกลุ้มรุม
ถูกกามราคะครอบงำอยู่ และเธอย่อมไม่ทราบชัดตามความเป็นจริง ซึ่งอบาย
เป็นเครื่องสลัดออกแห่งกามราคะที่เกิดขึ้นแล้ว สมัยนั้น ภิกษุนั้นพึงเข้าไปหา
ภิกษุผู้เจริญภาวนาทางใจ แล้วกล่าวอย่างนี้ว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ผมมีใจถูก
กามราคะกลุ้มรุม ถูกกามราคะครอบงำอยู่ และไม่ทราบชัดตามความเป็นจริง
ซึ่งอุบายเป็นเครื่องสลัดออกแห่งกามราคะที่เกิดขึ้นแล้ว ดีแล้ว ขอท่านผู้มีอายุ
จงแสดงธรรมเพื่อละกามราคะแก่ผม ภิกษุผู้เจริญภาวนาทางใจ ย่อมแสดงธรรม