เมนู

อรรถกถาอปริหานิยสูตร


ในอปริหานิยสูตรที่ 2 นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัส
อปริหานิยธรรม ที่เจือด้วยโลกุตระไว้แล้ว.
จบอรรถกถาอปริหานิยสูตรที่ 2

3. ภยสูตร


ว่าด้วยโทษของกาม


[294] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คำว่า ภัย นี้ เป็นชื่อของกาม คำว่า
ทุกข์ นี้ เป็นชื่อของกาม คำว่า โรค นี้ เป็นชื่อของกาม คำว่า ฝี นี้
เป็นชื่อของกาม คำว่า เครื่องขัดข้อง นี้ เป็นชื่อของกาม คำว่า เปือกตม นี้
เป็นชื่อของกาม ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็เหตุไร คำว่า ภัย นี้ จึงเป็นชื่อ
ของกาม เพราะสัตวโลกผู้ยินดีด้วยความกำหนัดในกาม ถูกความกำหนัด
เพราะความชอบพอเกี่ยวพันไว้ จึงไม่พ้นจากภัยแม้ที่มีในปัจจุบัน ไม่พ้นจาก
ภัยแม้ในสัมปรายภพ ฉะนั้น คำว่าภัยนี้ จึงเป็นชื่อของกาม ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ก็เหตุไร คำว่า ทุกข์. . .โรค. . .ฝี. . .เครื่องขัดข้อง. . .เปือกตมนี้
จึงเป็นชื่อของกาม เพราะสัตวโลกผู้ยินดีด้วยความกำหนัดในกามนี้ ถูกความ
กำหนัดเพราะความชอบพอเกี่ยวพันไว้ จึงไม่พ้นจากเปือกตมแม้ในปัจจุบัน
ไม่พ้นจากเปือกตมแม้ในสัมปรายภพ ฉะนั้น คำว่า เปือกตมนี้ จึงเป็นชื่อ
ของกาม.

พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้สุคตศาสดา ครั้นได้ตรัสไวยากรณภาษิตนี้จบลง
แล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า
เราเรียก ภัย ทุกข์ โรค และสิ่ง
ทั้ง 2 คือ เครื่องขัดข้อง เปือกตม ว่า
เป็นกาม เป็นที่ข้องของปุถุชน เพราะ
เห็นภัยในการยึดถือ ซึ่งเป็นแดนเกิดของ
ชาติและมรณะ ชนทั้งหลายจึงหลุดพ้น
เพราะไม่ถือมั่น ดำเนินไปในนิพพาน
อันเป็นที่สิ้นชาติและมรณะ ชนเหล่านั้น
ถึงแดนเกษม มีสุข ดับสนิทในปัจจุบัน
ผ่านพ้นเวรและภัย ล่วงทุกข์ทั้งปวง.

จบภยสูตรที่ 3

อรรถกถาภยสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในภยสูตรที่ 3 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า กามราครตฺตายํ ตัดบทเป็น กามราครตฺโต อยํ (แปลว่า
ภิกษุนี้ ถูกกามราคะย้อมแล้ว). บทว่า ฉนฺทราควินิพนฺโธ ความว่า ถูก
ฉันทราคะผูกพันแล้ว. บทว่า ภยา ได้แก่ จากภัยคือความสะดุ้งแห่งจิต. บทว่า
ปงฺกา ได้แก่ จากเปลือกตม คือกิเลส. บทว่า สงฺโค ปงฺโก จ อุภยํ
ความว่า ทั้งสองอย่างนี้ คือ สังคะ (เครื่องขัดข้อง) และปังกะ (เปลือกตม)