เมนู

นี้ ผู้นั้นพึงยินดีสุขที่ไม่สะอาด สุขในการนอน และสุขที่อาศัยลาภ สักการะ
และการสรรเสริญ ดูก่อนนาคิตะ อาหาร ที่กิน ดื่ม เคี้ยว ลิ้มแล้วย่อมมี
อุจจาระและปัสสาวะเป็นผล นี้เป็นผลแห่งอาหารนั้น ความรักมีโสกะ ปริเทวะ
ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส ที่เกิดขึ้นเพราะสิ่งที่รักแปรปรวนเป็นอื่นเป็นผล
นี้เป็นผลแห่งความรักนั้น ความเป็นของปฏิกูลในอสุภนิมิต ย่อมตั้งอยู่แก่ภิกษุ
ผู้ขวนขวายการประกอบตามอสุภนิมิต นี้เป็นผลแห่งการประกอบตามอสุภนิมิต
นั้น ความเป็นของปฏิกูลในผัสสะ ย่อมตั้งอยู่แก่ภิกษุผู้พิจารณาเห็นว่าไม่เที่ยง
ในผัสสายตนะ 6 อยู่ นี้เป็นผลแห่งการพิจารณาเห็นว่าไม่เที่ยงในผัสสายตนะ
นั้น ความเป็นของปฏิกูลในอุปาทาน ย่อมตั้งอยู่แก่ภิกษุผู้พิจารณาเห็นความเกิด
และความดับในอุปาทานขันธ์ 5 นี้เป็นผลแห่งการพิจารณาเห็นความเกิดและ
ความดับในอุปาทานขันธ์.
จบนาคิตสูตรที่ 10
จบปัญจังคิกวรรคที่ 3

อรรถกถานาคิตสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในนาคิตสูตรที่ 10 ดังต่อไปนี้ :-
ชื่อว่าอุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา เพราะชื่อว่ามีเสียงสูงเพราะเสียงขึ้นไป
เบื้องบน และชื่อว่ามีเสียงดังเพราะเสียงเป็นกลุ่มก้อน จริงอยู่เมื่อชนทั้งหลาย
มีกษัตริย์มหาศาลและพราหมณ์มหาศาลเป็นต้น ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ถือสักการะ
เป็นอันมาก พากันเดินมา เมื่อพวกเขาพูดว่า ท่านจงให้โอกาสแก่คนโน้น
จงให้โอกาสแก่คนโน้นดังนี้ เมื่อต่างคนต่างพูดกันอย่างนี้ว่า เราไม่มีโอกาส
ก่อนดังนี้ เสียงก็สูงและดัง. บทว่า เกวฏฺฎา มญฺเญ มจฺเฉ วิโลเปนฺติ