เมนู

พรานเนื้อ ฆ่าเนื้อขายอยู่ ย่อมขี่ช้าง ขี่ม้า ขึ้นยาน เป็นเข้าของโภคะ
หรือครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ เพราะกรรมนั้น เพราะอาชีพนั้น.
ภิ. หามิได้ พระเจ้าข้า.
พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ดีละ ข้อนั้นแม้เราก็ไม่ได้เห็นไม่ได้ฟังมาว่า
พรานเนื้อ ฆ่าเนื้อขายอยู่ ย่อมขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน เป็นเจ้าของโภคะ
หรือครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ เพราะกรรมนั้น เพราะอาชีพนั้น
ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่าเขาย่อมเพ่งดูเนื้อเหล่านั้นที่พึงฆ่า ที่นำมาเพื่อฆ่า
ด้วยใจที่เป็นบาป ฉะนั้น เขาจึงไม่ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน ไม่ได้เป็น
เจ้าของโภคะ ไม่ได้ครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ ก็เขาย่อมเพ่งดูสัตว์
ดิรัจฉานเหล่านั้นที่พึงฆ่า ที่นำมาเพื่อฆ่า ด้วยใจที่เป็นบาป ฉะนั้น เขาจึง
ไม่ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน ไม่ได้เป็นเจ้าของโภคะ หรือครอบครอง
กองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ จะกล่าวอะไร ถึงบุคคลผู้เพ่งดูมนุษย์ที่พึงฆ่า
ที่นำมาเพื่อฆ่า ด้วยใจที่เป็นบาปเล่า เพราะผลข้อนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อสิ่งที่
ไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ตลอดกาลนานแก่เขา เมื่อตายไปแล้วย่อม
เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ฯลฯ
จบมัจฉสูตรที่ 8

อรรถกถามัจฉสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในมัจฉสูตรที่ 8 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า มจฺฉิกํ ได้แก่ ผู้ฆ่าปลา. บุคคลชื่อว่า หตฺถียายี เพราะ
ไปด้วยช้าง. แม้ศัพท์ต่อไปข้างหน้า ก็มีนัยนี้. บทว่า วชฺเฌ แปลว่า
ที่จะต้องฆ่า. บทว่า วธายานีเต ความว่า สัตว์ที่เขานำไปเพื่อฆ่า. บทว่า