เมนู

อรรถกถามหานามสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในมหานามสูตรที่ 10 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า มหานาโม ได้แก่เจ้าศากยะองค์หนึ่ง ผู้เป็นพระราชโอรส
แห่งพระเจ้าอาของพระทศพล. บทว่า เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ ความ
ว่า ท้าวเธอเสวยพระกระยาหารเช้าแล้ว ห้อมล้อมไปด้วยทาสและบริวารชน
ให้คนถือเอาของหอมและระเบียบเป็นต้น แล้วได้เสด็จไปในที่ที่พระบรมศาสดา
ประทับอยู่. (พระอริยสาวก) ชื่อว่า อาคตผโล เพราะมีอริยผลมาถึงแล้ว.
ชื่อว่า วิญฺญาตสาสโน เพราะมีคำสอนคือสิกขา 3 อันท่านรู้แจ้งแล้ว.
พระราชา (เจ้าศากยะพระนามว่า มหานาม) นี้ เมื่อจะทูลถามว่า ข้าพระองค์
ทูลถามถึงวิหารธรรมอันเป็นที่อาศัยของพระโสดาบัน ดังนี้จึงกราบทูลอย่างนี้.
บทว่า เนวสฺส ราคปริยุฏฺฐิตํ ความว่า (จิตของพระอริยสาวก-
นั้น) ไม่ถูกราคะที่เกิดขึ้น รุมรึงไว้. บทว่า อุชุคตํ ความว่า (จิตของพระ-
อริยสาวกนั้น ) ดำเนินตรงไป ในพุทธานุสติกัมมัฏฐาน. บทว่า ตถาคตํ
อารพฺภ
ได้แก่ปรารภพระคุณของพระตถาคตเจ้า.
บทว่า อตฺถเวทํ ได้แก่ปีติและปราโมทย์ที่เกิดขึ้น อาศัยอรรถกถา.
บทว่า ธมฺมเวทํ ได้แก่ปีติและปราโมทย์ ที่เกิดขึ้นอาศัยบาลี. บทว่า
ธมฺมูปสญฺหิตํ ได้แก่ปีติและปราโมทย์ ที่เกิดขึ้นอาศัยทั้งพระบาลี และ
อรรถกถา. บทว่า ปมุทิตสฺส ความว่า แก่ผู้ที่ปราโมทย์แล้ว ด้วยความ
ปราโมทย์ 2 อย่าง. บทว่า ปีติ ชายติ ความว่า ปีติ 5 อย่าง ย่อม
บังเกิด. บทว่า กาโย ปสฺสมฺภติ ความว่า ทั้งนามกาย ทั้งกรชกายย่อม
สงบระงับ ด้วยธรรมเป็นเครื่องสงบระงับซึ่งความกระวนกระวาย. บทว่า