เมนู

เธอย่อมทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้
เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลายภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 6 ประการนี้แล ย่อมเป็น
ผู้ควรของคำนับ ฯลฯ เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.
จบทุติยอาหุเนยยสูตรที่ 2

อรรถกถาทุติยอาหุเนยยสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในทุติยอาหุเนยยสูตรที่ 2 ดังต่อไปนี้ :-
บทมีอาทิว่า อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ดังนี้ ข้าพเจ้าได้กล่าวไว้แล้วใน
คัมภีร์วิสุทธิมรรค. บทว่า อาสวานํ ขยา อนาสวํ ความว่า ชื่อว่า หา
อาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป มิใช่เพราะเหมือนการไม่มีแห่งจักษุ-
วิญญาณเป็นต้น. ในพระสูตรนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอภิญญาไว้สำหรับ
พระขีณาสพ ตามลำดับ.
จบอรรกถาทุติยอาหุเนยยสูตรที่ 2

3. อินทริยสูตร


ว่าด้วยคุณธรรมของภิกษุผู้เป็นนาบุญ


[274] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม 6 ประการ
ย่อมเป็นผู้ควรของคำนับ ฯลฯ เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
ธรรม 6 ประการเป็นไฉน คือ
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ประกอบด้วยอินทรีย์คือสัทธา 1 อินทรีย์คือ
วิริยะ 1 อินทรีย์คือสติ 1 อินทรีย์คือสมาธิ 1 อินทรีย์คือปัญญา 1 และ
กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะ
ทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ 1 ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม 6 ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ควรของคำนับ
ฯลฯ เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.
จบอินทริยสูตรที่ 3

4. พลสูตร


ว่าด้วยคุณธรรมของภิกษุผู้เป็นนาบุญ


[275] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม 6 ประการ
ย่อมเป็นผู้ควรของคำนับ ฯลฯ เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
ธรรม 6 ประการเป็นไฉน ? คือ
ภิกษุประกอบด้วยกำลังคือสัทธา 1 กำลังคือวิริยะ 1 กำลังคือสติ 1
กำลังคือสมาธิ 1 กำลังคือปัญญา 1 และกระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญา-