เมนู

7. อปรวจีทุจริตสูตร


ว่าด้วยโทษของวจีทุจริตและคุณของวจีสุจริต


[247] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษในเพราะวจีทุจริต 5 ประการนี้
ฯลฯ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในเพราะวจีสุจริต 5 ประการนี้ ฯลฯ
จบอปรวจีทุจริตสูตรที่ 7

8. อปรมโนทุจริตสูตร


ว่าด้วยโทษของมโนทุจริตและคุณของมโนสุจริต


[248] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษในเพราะมโนทุจริต 5 ประการนี้
5 ประการเป็นไฉน คือ แม้ตนเองย่อมติเตียนตนได้ 1 วิญญูชนพิจารณา
แล้วย่อมติเตียน 1 กิตติศัพท์ที่ชั่วย่อมฟุ้งไป 1 ย่อมเสื่อมจากสัทธรรม 1
ย่อมตั้งอยู่ในอสัทธรรม 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษในเพราะมโนทุจริต
5 ประการนี้แล.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในเพราะมโนสุจริต 5 ประการนี้
5 ประการเป็นไฉน คือ แม้ตนเองย่อมไม่ติเตียนตนได้ 1 วิญญูชนพิจารณา
แล้วย่อมสรรเสริญ 1 กิตติศัพท์ที่ชั่วย่อมฟุ้งไป 1 ย่อมเสื่อมจากสัทธรรม 1
ย่อมตั้งอยู่ในอสัทธรรม 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษในเพราะมโนสุจริต
5 ประการนี้แล.
จบอปรมโนทุจริตสูตรที่ 8

9. สีวถิกาสูตร


ว่าด้วยโทษของป่าช้าและคนเหมือนป่าช้า


[249] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษในป่าช้า 5 ประการนี้ 5 ประการ
เป็นไฉน ? คือ เป็นที่ไม่สะอาด 1 มีกลิ่นเหม็น 1 มีภัยเฉพาะหน้า 1
เป็นที่อยู่ของพวกมนุษย์ร้าย 1 เป็นที่รำพันทุกข์ของชนหมู่มาก 1 ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย โทษในป่าช้า 5 ประการนี้แล.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โทษในบุคคลผู้เปรียบด้วยป่าช้า 5 ประการนี้
ฉันนั้นเหมือนกัน 5 ประการเป็นไฉน ? คือ บุคคลบางคนในโลกนี้ย่อม
ประกอบด้วยกายกรรมอันไม่สะอาด ด้วยวจีกรรมอันไม่สะอาด ด้วยมโนกรรม
อันไม่สะอาด เรากล่าวข้อนี้เพราะเขาเป็นผู้ไม่สะอาด ป่าช้านั้นเป็นที่ไม่สะอาด
แม้ฉันใด เรากล่าวบุคคลนี้เปรียบฉันนั้น.
กิตติศัพท์ที่ชั่วของเขาผู้ประกอบด้วยกายกรรม อันไม่สะอาด ด้วยวจี-
กรรมอันไม่สะอาด ด้วยมโนกรรมอันไม่สะอาด ย่อมฟุ้งไป เรากล่าวข้อนี้
เพราะเขาเป็นผู้มีกลิ่นเหม็น ป่าช้ามีกลิ่นเหม็นแม้ฉันใด เรากล่าวบุคคลนี้
เปรียบฉันนั้น.
เพื่อนพรหมจรรย์ผู้มีศีลเป็นที่รัก ย่อมเว้นไกลซึ่งบุคคลนั้นผู้ประกอบ
ด้วยกายกรรมอันไม่สะอาด ด้วยวจีกรรมอันไม่สะอาด ด้วยมโนกรรมอันไม่
สะอาด เรากล่าวข้อนี้เพราะเขามีภัยเฉพาะหน้า ป่าช้ามีภัยเฉพาะหน้า แม้
ฉันใด เรากล่าวบุคคลนี้เปรียบฉันนั้น.
เขาประกอบด้วยกายกรรมอันไม่สะอาด ด้วยวจีกรรมอันไม่สะอาด
ด้วยมโนกรรมอันไม่สะอาด ย่อมอยู่ร่วมกับบุคคลผู้เสมอกัน เรากล่าวข้อนี้