เมนู

หมู่สัตว์ผู้เป็นไปตามกรรมด้วยประการฉะนี้ เมื่อธรรมเครื่องสืบต่อมีอยู่ไม่ขาด
สาย เธอก็จะบรรลุผลสำเร็จในจุตูปปาตญาณนั้น ๆ โดยแน่นอน.
ถ้าเธอหวังอยู่ว่า เราพึงทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหา
อาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน
เข้าถึงอยู่ เมื่อธรรมเครื่องสืบต่อมีอยู่ไม่ขาดสาย เธอก็จะบรรลุผลสำเร็จใน
เจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตตินั้น ๆ โดยแน่นอน.
จบอุปกิเลสสูตรที่ 3

อรรถกถาอุปกิเลสสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในอุปกิเลสสูตรที่ 3 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า น จ ปภสฺสรํ คือ ไม่สว่างไสว. บทว่า ปภงฺคุ จ
คือ มีสภาพผุพัง. บทว่า อโย คือ โลหะดำ (เหล็ก). บทว่า โลหํ ได้แก่
โลหะที่เหลือเว้นโลหะ 4 ที่ตรัสไว้แล้วในที่นี้. บทว่า สชฺฌุํ ได้แก่ เงิน.
บทว่า จิตฺตสฺส ได้แก่ กุศลจิตอันเป็นไปในภูมิ 4. ถามว่า อุปกิเลส
ย่อมมีแก่กุศลจิตอันเป็นไปในภูมิ 3 ยกไว้ก่อน แต่จะมีแก่โลกุตรภูมิได้อย่างไร.
ตอบว่า โดยไม่ให้กุศลจิตเกิดขึ้น. อุปกิเลสทั้งหลายไม่ให้กุศลจิตเกิดขึ้นโดย
ส่วนใด ชื่อว่า อุปกิเลสทั้งหลายก็ย่อมมีทั้งแก่โลกิยกุศลจิต ทั้งแก่โลกุตร-
กุศลจิต โดยส่วนนั้นนั่นเอง. บทว่า ปภงฺคุ จ ได้แก่ มีสภาพผุพัง
เพราะแหลกละเอียดไปในอารมณ์. บทว่า สมฺมาสมาธิยติ อาสวานํ ขยาย
ได้แก่ ย่อมตั้งมั่นด้วยเหตุการณ์เพื่อประโยชน์แก่พระอรหัตกล่าวคือความสิ้นไป
แห่งอาสวะทั้งหลาย. ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ทรงแสดงถึงพระขีณาสพผู้ชำระจิต