เมนู

7. ทุกถาสูตร


ว่าด้วยพูดดีเป็นชั่วและพูดดีเป็นดี


[157] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้อยคำของบุคคล 5 จำพวก ย่อมเป็น
ถ้อยคำชั่ว เมื่อเทียนบุคคลกับบุคคล บุคคล 5 จำพวก เป็นไฉน ? คือ
ถ้อยคำปรารภศรัทธาเป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ไม่มีศรัทธา 1 ถ้อยคำปรารภศีลเป็น
ถ้อยคำชั่วแก่ผู้ทุศีล 1 ถ้อยคำปรารภพาหุสัจจะเป็นถ้อยคำชั่ว แก่ผู้ได้สดับน้อย
1 ถ้อยคำปรารภจาคะเป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ตระหนี่ 1 ถ้อยคำปรารภปัญญาเป็น
ถ้อยคำชั่วแก่ผู้ทรามปัญญา 1.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุไร ถ้อยคำปรารภศรัทธาจึงเป็นถ้อย-
คำชั่วแก่ผู้ไม่มีศรัทธา ? เพราะผู้ไม่มีศรัทธา เมื่อพูดเรื่องศรัทธา ย่อม
ขัดข้อง โกรธ พยาบาท กระด้าง แสดงความโกรธเคืองและความขัดใจให้
ปรากฏ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะผู้ไม่มีศรัทธานั้น ย่อมไม่เห็นศรัทธา-
สัมปทาในตน และย่อมไม่ได้ปีติปราโมทย์ที่มีศรัทธาสัมปทานั้นเป็นเหตุ ฉะนั้น
ถ้อยคำปรารภศรัทธาจึงเป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ไม่มีศรัทธา.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุไร ถ้อยคำปรารภศีลจึงเป็นถ้อยคำชั่ว
แก่ผู้ทุศีล ? เพราะผู้ทุศีล เมื่อพูดเรื่องศีลย่อมขัดข้อง โกรธ พยาบาท
กระด้าง แสดงความโกรธเคืองและความขัดใจให้ปรากฏ ข้อนั้นเพราะเหตุไร
เพราะผู้ทุศีลนั้นย่อมไม่เห็นศีลสัมปทาในตน และย่อมไม่ได้ปีติและปราโมทย์
ที่มีศีลสัมปทานั้นเป็นเหตุ ฉะนั้น ถ้อยคำปรารภศีลจึงเป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ทุศีล.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุไร ถ้อยคำปรารภพาหุสัจจะจึงเป็น
ถ้อยคำชั่วแก่ผู้ได้สดับน้อย ? เพราะผู้ได้สดับน้อย เมื่อพูดเรื่องพาหุสัจจะ

ย่อมขัดข้อง โกรธ พยาบาท กระด้าง แสดงความโกรธเคืองและความขัดใจ
ให้ปรากฏ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะผู้ได้สดับน้อยนั้น ย่อมไม่เห็นสุต-
สัมปทาในตน และย่อมไม่ได้ปีติปราโมทย์ที่มีสุตสัมปทาเป็นเหตุ ฉะนั้น
ถ้อยคำปรารภพาหุสัจจะจึงเป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ได้สดับน้อย.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุไร ถ้อยคำปรารภจาคะจึงเป็นถ้อยคำ
ชั่วแก่ผู้ตระหนี่ ? เพราะผู้ตระหนี่ เมื่อพูดเรื่องจาคะ ย่อมขัดข้อง โกรธ
พยาบาท กระด้าง แสดงความโกรธเคืองและความขัดใจให้ปรากฏ ข้อนั้น
เพราะเหตุไร เพราะผู้ตระหนี่นั้นย่อมไม่เห็นจาคสัมปทาในตนและย่อมไม่ได้
ปีติปราโมทย์ที่มีจาคสัมปทานั้นเป็นเหตุ ฉะนั้น ถ้อยคำปรารภจาคะ จึงเป็น
ถ้อยคำชั่วของผู้ตระหนี่.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุไร ถ้อยคำปรารภปัญญาจึงเป็นถ้อยคำ
ชั่วแก่ผู้ทรามปัญญา ? เพราะผู้ทรามปัญญา เมื่อพูดเรื่องปัญญา ย่อมขัดข้อง
โกรธ พยาบาท กระด้าง แสดงความโกรธเคืองและความขัดใจให้ปรากฏ
ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะผู้ทรามปัญญานั้นย่อมไม่เห็นปัญญาสัมปทาในตน
และย่อมไม่ได้ปีติปราโมทย์ที่มีปัญญาสัมปทานั้นเป็นเหตุ ฉะนั้น ถ้อยคำปรารภ
ปัญญาจึงเป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ทรามปัญญา.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้อยคำของบุคคล 5 จำพวกนี้แล ย่อมเป็น
ถ้อยคำชั่ว เมื่อเทียบบุคคลกับบุคคล.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้อยคำของบุคคล 5 จำพวก ย่อมเป็นถ้อยคำดี
เมื่อเทียบบุคคลกับบุคคล บุคคล 5 จำพวกเป็นไฉน ? คือถ้อยคำปรารภ
ศรัทธาเป็นถ้อยคำดีแก่ผู้มีศรัทธา 1 ถ้อยคำปรารภศีลเป็นถ้อยคำดีแก่ผู้มีศีล 1
ถ้อยคำปรารภพาหุสัจจะเป็นถ้อยคำดีแก่ผู้ได้สดับมาก 1 ถ้อยคำปรารภจาคะ
เป็นถ้อยคำดีแก่ผู้มีจาคะ 1 ถ้อยคำปรารภปัญญาเป็นถ้อยคำดีแก่ผู้มีปัญญา 1.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุไร ถ้อยคำปรารภศรัทธาจึงเป็นถ้อยคำ
ดีแก่ผู้มีศรัทธา ? เพราะผู้มีศรัทธา เมื่อพูดเรื่องศรัทธาย่อมไม่ขัดข้อง ไม่
โกรธ ไม่พยาบาท ไม่กระด้าง ไม่แสดงความโกรธเคืองแสะความขัดใจให้
ปรากฏ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะผู้มีศรัทธานั้นย่อมเห็นศรัทธาสัมปทาในตน
และย่อมได้ปีติปราโมทย์ที่มีศรัทธาสัมปทานั้นเป็นเหตุ ฉะนั้น ถ้อยคำปรารภ
ศรัทธาจึงเป็นถ้อยคำดีแก่ผู้มีศรัทธา.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุไร ถ้อยคำปรารภศีลจึงเป็นถ้อยคำดี
แก่ผู้มีศีล ? เพราะผู้มีศีล เมื่อพูดเรื่องศีล ย่อมไม่ขัดข้อง ไม่โกรธ ไม่
พยาบาท ไม่กระด้าง ไม่แสดงความโกรธเคืองเละความขัดใจให้ปรากฏ ข้อนั้น
เพราะเหตุไร เพราะผู้มีศีลนั้นย่อมเห็นศีลสัมปทาในตน และย่อมได้ปีติ
ปราโมทย์ทีมีศีลสัมปทานนั้นเป็นเหตุ ฉะนั้น ถ้อยคำปรารภศีลจึงเป็นถ้อยคำดี
แก่ผู้มีศีล.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุไร ถ้อยคำปรารภพาหุสัจจะจึงเป็น
ถ้อยคำดีแก่ผู้ได้สดับมาก ? เพราะผู้ได้สดับมาก เมื่อพูดเรื่องพาหุสัจจะ ย่อม
ไม่ขัดข้อง ไม่โกรธ ไม่พยาบาท ไม่กระด้าง ไม่แสดงความโกรธเคืองและ
ความขัดใจให้ปรากฏ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะผู้ได้สดับมากย่อมเห็นสุต-
สัมปทาในตน และย่อมได้ปีติปราโมทย์ที่มีสุตสัมปทานั้นเป็นเหตุ ฉะนั้น
ถ้อยคำปรารภพาหุสัจจะจึงเป็นถ้อยคำดีแก่ผู้ได้สดับมาก.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุไร ถ้อยคำปรารภจาคะจึงเป็นถ้อยคำดี
แก่ผู้มีจาคะ ? เพราะผู้มีจาคะ เมื่อพูดเรื่องจาคะ ย่อมไม่ขัดข้อง ไม่โกรธ
ไม่พยาบาท ไม่กระด้าง ไม่แสดงความโกรธเคืองและความขัดใจให้ปรากฏ
ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะผู้มีจาคะนั้นย่อมเห็นจาคสัมปทาในตน และย่อม

ได้ปีติปราโมทย์ที่มีจาคสัมปทานั้นเป็นเหตุ ฉะนั้น ถ้อยคำปรารภจาคะจึงเป็น
ถ้อยคำดีแก่ผู้มีจาคะ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุไร ถ้อยคำปรารภปัญญาจึงเป็นถ้อยคำ
ดีแก่ผู้มีปัญญา ? เพราะผู้มีปัญญา เมื่อพูดเรื่องปัญญา ย่อมไม่ขัดข้อง ไม่
โกรธ ไม่พยาบาท ไม่กระด้าง ไม่แสดงความโกรธเคืองและความขัดใจให้
ปรากฏ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะผู้มีปัญญานั้น ย่อมเห็นปัญญาสัมปทาในตน
และย่อมได้ปีติปราโมทย์ที่มีปัญญาสัมปทานั้นเป็นเหตุ ฉะนั้น ถ้อยคำปรารภ
ปัญญาจึงเป็นถ้อยคำดีแก่ผู้มีปัญญา.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้อยคำของบุคคล 5 จำพวกนี้แล ย่อมเป็น
ถ้อยคำดี เมื่อเทียบบุคคลกับบุคคล.
จบทุกถาสูตรที่ 7

อรรถกถาทุกถาสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในทุกถาสูตรที่ 7 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ปุคฺคลํ อุปนิธาย ความว่า อ้างถึงบุคคลนั้นแล้วทำให้
เป็นพยาน. บทว่า กจฺฉมานาย แปลว่า กล่าว คำที่เหลือในสูตรนี้มีเนื้อ
ความง่ายทั้งนั้น.
จบอรรถกถาทุกถาสูตรที่ 7