เมนู

การสนทนาอะไรซึ่งท่านทั้งหลายยังค้างอยู่ในระหว่าง เจ้าลิจฉวีเหล่านั้น
ได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อข้าพระองค์ทั้งหลายนั่งประชุมกันอยู่
ณ ที่นี้ ได้มีการสนทนากันว่า ความปรากฏแห่งแก้ว 5 ประการ เป็นของ
หาได้ยากในโลก แก้ว 5 ประการเป็นไฉน คือ ความปรากฏแห่งช้างแก้ว 1
ความปรากฏแห่งม้าแก้ว 1 ความปรากฏแห่งแก้วมณี 1 ความปรากฏแห่ง
นางแก้ว 1 ความปรากฏแห่งคฤหบดีแก้ว 1 ความปรากฏแห่งแก้ว 5 ประการ
นี้ เป็นของหาได้ยากในโลก.
พ. ดูก่อนเจ้าลิจฉวีทั้งหลาย ท่านทั้งหลายเป็นผู้มุ่งไปในกาม จึงได้
มีการสนทนากันปรารภเฉพาะกาม ดูก่อนเจ้าลิจฉวีทั้งหลาย ความปรากฏแห่ง
แก้ว 5 ประการเป็นของหาได้ยาก แก้ว 5 ประการเป็นไฉน คือ ความ
ปรากฏแห่งตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า 1 บุคคลผู้แสดงธรรม
วินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว 1 บุคคลผู้รู้แจ้งธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศ
แล้ว 1 บุคคลผู้รู้แจ้งธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว ซึ่งผู้อื่นแสดง
ให้ฟังแล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม 1 กตัญญูกตเวทีบุคคล 1

ดูก่อนเจ้าลิจฉวีทั้งหลาย ความปรากฏแห่งแก้ว 5 ประการนี้แล เป็นของหา
ได้ยากในโลก.
จบสารันททสูตรที่ 3

อรรถกถาสารันททสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในสารันททสูตรที่ 3 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า กามาธิมุตฺตานํ ได้แก่ น้อมไปในวัตถุกามและกิเลสกาม.
บทว่า ธมฺมานุธมฺมปฏิปนฺโน ความว่า บุคคลผู้ปฏิบัติปฏิปทาเบื้องต้น
พร้อมกับศีล เพื่อต้องการโลกุตรธรรม 9 ชื่อว่า ผู้นำปฏิบัติให้บริบูรณ์
เป็นบุคคลหาได้ยากในโลก.
จบอรรถกถาสารันททสูตรที่ 3

4. ติกัณฑกีสูตร


ว่าด้วยสิ่งปฏิกูลและไม่ปฏิกูล


[144] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่ป่าติกัณฑกีวัน
ใกล้เมืองสาเกต ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว พระผู้มี-
พระภาคเจ้าได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ขอภิกษุพึงเป็นผู้มีความสำคัญใน
สิ่งไม่ปฏิกูล ว่าเป็นสิ่งปฏิกูล อยู่ตลอดกาล ขอภิกษุพึงเป็นผู้มีความ
สำคัญในสิ่งปฏิกูล ว่า ไม่เป็นปฏิกูล อยู่ตลอดกาล ขอภิกษุพึงเป็นผู้มี
ความสำคัญในสิ่งไม่ปฏิกูล และสิ่งปฏิกูลว่า เป็นปฏิกูล อยู่ตลอดกาล
ขอภิกษุพึงเป็นผู้มีความสำคัญในสิ่งปฏิกูล และสิ่งไม่ปฏิกูลว่า เป็นสิ่งไม่
ปฏิกูลอยู่ตลอดกาล ขอภิกษุพึงเว้นสิ่งทั้งสอง คือ สิ่งไม่ปฏิกูลและสิ่ง
ปฏิกูลแล้ว เป็นผู้มีความวางเฉย มีสติสัมปชัญญะอยู่ตลอดกาล.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไร ภิกษุจึงควร
เป็นผู้มีความสำคัญในสิ่งไม่ปฏิกูล ว่าเป็นสิ่งปฏิกูล เพราะอาศัยอำนาจ
ประโยชน์นี้ว่า ความกำหนัดในธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด อย่าเกิดขึ้น
แก่เรา ภิกษุจึงควรเป็นผู้มีความสำคัญในสิ่งไม่ปฏิกูลว่าเป็นสิ่งปฏิกูลอยู่ เพราะ
อาศัยอำนาจประโยชน์อะไร ภิกษุจึงควรเป็นผู้มีความสำคัญในสิ่งปฏิกูลว่าเป็น
สิ่งไม่ปฏิกูล เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์นี้ว่า ความขัดเคืองในธรรมอันเป็น
ที่ตั้งแห่งความขัดเคือง อย่าเกิดขึ้นแก่เรา ภิกษุจึงควรเป็นผู้มีความสำคัญใน
สิ่งปฏิกูลว่าเป็นสิ่งไม่ปฏิกูลอยู่ เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไร ภิกษุจึง
ควรเป็นผู้มีความสำคัญในสิ่งไม่ปฏิกูล และสิ่งปฏิกูลว่าเป็นสิ่งไม่ปฏิกูลอยู่